นายอัษฎางค์ ยมนาค นักวิชาการอิสระ โพสต์เฟซบุ๊กถึงการจับกุมเยาวชนที่พกระเบิดเพลิงเตรียมเข้าร่วมกับม็อบทะลุแก๊สว่า “คนไทยทุกคนมีเสรีภาพในการชุมนุมโดยสงบและปราศจากอาวุธ”
ตำรวจนครบาลจับ 2 เยาวชน พกอุปกรณ์ครบมือ กำลังประกอบระเบิดเพลิง โดยการบรรจุระเบิดเพลิงใส่ขวด พร้อมของกลางหลายรายการ อาทิ เช่น ขวดแก้ว น้ำมันก๊าด น้ำมันเบนซิน กระป๋องฉีดสี และมีด 1 ด้าม
เพื่อเตรียมปาใส่ตำรวจควบคุมฝูงชน ที่ตั้งแนวรักษาความสงบ เนื่องจากรู้สึกโกรธแค้นที่ตำรวจจับกุมตัวแก๊งทะลุแก๊สและแนวร่วมไปแล้ว 10 กว่าราย ซ้ำยังไม่ได้รับการประกันตัว
เยาวชนทั้ง 2 คน มีอายุ 18 ปีและกำลังศึกษาอยู่ในสถาบันอาชีวะ ถึงแม้จะยังเป็นเด็ก แต่อายุไม่น้อยแล้ว แถมเป็นผู้มีการศึกษา แต่กลับแยกแยะไม่ออกระหว่าง ศัตรูคู่อริ กับเจ้าหน้าที่ของบ้านเมือง ซึ่งต้องปฏิบัติตามหน้าที่
ตำรวจ คือเจ้าหน้าที่ของรัฐ มีหน้าที่ในการสืบสวนสอบสวน ป้องกันปราบปราม ตรวจตรา รักษาความสงบ จับกุม รวมถึงบังคับใช้กฎหมาย เพื่อป้องกันการก่ออาชญากรรม โดยมีอำนาจหน้าที่โดยชอบตามกฎหมาย เพื่อปกป้องชีวิตและทรัพย์สินของประชาชน
ตำรวจควบคุมฝูงชน เป็นหน่วยเฉพาะทางของตำรวจที่ถูกฝึกฝนมาเพื่อปฏิบัติการในการควบคุมสถานการณ์ที่มีความรุนแรงเกินกว่าตำรวจท้องที่
ภารกิจในการต่อต้านความไม่สงบ การจัดการเหตุฉุกเฉินและภารกิจอื่น ๆ ที่เกี่ยวเนื่องกับการรักษาความสงบเรียบร้อยของประชาชน นั้นอยู่ในขอบเขตอำนาจการปฏิบัติการของตำรวจ
ถ้าน้องเยาวชนทั้ง 2 มีพ่อแม่หรือญาติพี่น้องหรือเพื่อนเป็นตำรวจ เขาก็ต้องทำหน้าที่ป้องกัน ปราบปรามและจับกุม ตัวน้องทั้ง 2 หรือเพื่อนของน้อง ซึ่งก่อความไม่สงบ
ที่เขาปฏิบัติการปราบปรามและจับกุม ไม่ใช่เพราะตำรวจต้องการเป็นศัตรูกับผู้ชุมนุม แต่เขาจำเป็นต้องทำตามหน้าที่ หากเขาไม่ทำตามหน้าที่ เขาก็มีความผิด
ความผิดฐานละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ราชการ อาจถึงขั้นปลดออกหรือไล่ออก
คนทุกคนต้องมีอาชีพ เพื่อหาเงินเลี้ยงชีพของตนและครอบครัว เมื่อมีอาชีพก็ต้องปฏิบัติตามหน้าที่
เพราะฉะนั้น ผู้ชุมนุมทุกคน ทุกวัย ต้องเข้าใจเรื่องเหล่านี้ และต้องเห็นใจเจ้าหน้าที่ ซึ่งต้องปฏิบัติตามหน้าที่ด้วย