Monday, 4 December 2023
NEWS

3 โจรวัยรุ่นชักมีด ปล้นเงินพระธุดงค์หนุ่ม พระเผยไม่เอาเรื่อง ก่อนไปโจรขอพร จึงให้พรขอให้โชคดี ไม่พอโจรยังเตือนให้ระวังเศษแก้ว หวั่นพระเหยียบบาดเจ็บ

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลาประมาณตี 2 ของวันที่ 12 มิ.ย. 2565 ขณะที่พระครูวินัยธรธีรวัฒน์ สิริมังคโล วัย 31 ปี เจ้าสำนักอารามดงสามหมื่น ตำบลบ้านโฮ่ง อำเภอบ้านโฮ่ง จังหวัดลำพูน กำลังปักกลดจำวัดอยู่ในพื้นที่อำเภอโกสัมพีนคร จังหวัดกำแพงเพชร ได้ถูก 3 โจรปล้นทรัพย์ จึงขอให้ผู้สื่อข่าวช่วยติดตามดูแล

พระครูวินัยธรธีรวัฒน์ เปิดเผยว่า ขณะที่กำลังปักกลดอยู่ในเขต อ.โกสัมพีนคร เวลาประมาณตี 2 มีผู้ชายวัยรุ่น 3 คนขับรถขี่รถจักรยานยนต์เข้ามองจอดที่บริเวณที่ปักกลด แล้วหนึ่งในนั้นก็ลงมายกมือไหว้ พร้อมโชว์มีดให้ดูและบอกว่านี่มีดนะ จากนั้นบอกว่าขอดูย่ามหน่อย เมื่อส่งย่ามให้ซึ่งในย่ามมีเงินสดประมาณ 400 บาทเศษ มีญาติโยมถวายมาเพื่อให้ได้ใช้ทำบุญในระหว่างทางที่เดินธุดงค์ไป คนร้ายจึงได้นำเงินไป พร้อมที่ชาร์จแบตโซล่าเซลล์ และไฟฉาย บอกว่าขอเอาไปนะ

และก่อนที่ทั้ง 3 โจรจะจากไปยังได้ขอให้พระอวยพรให้ด้วย ซึ่งพระก็อวยพรขอให้โชคดีในทางที่เดินไป ก่อนกลับออกไป 3 โจรยังบอกอีกว่าเดินไปอีก 3 เสาไฟฟ้าให้ระวังเศษแก้วที่พวกตนทำแก้วแตกไว้ด้วยนะ ผมเป็นห่วง พระครูเผยว่า ไม่ได้ถือโทษหรือโกรธเคือง เพราะเขามาขอดีๆ ก็เมตตาให้ไปตามที่ขอ ส่วนผลกรรมที่เขาได้เลือกทำ ก็ต้องเป็นไปตามนั้น

ทั้งนี้ ผู้สื่อข่าวได้กราบนิมนต์พระครูวินัยธรธีรวัฒน์ ไปปักกลดจำวัดอยู่ที่จังหวัดกำแพงเพชร หนึ่งคืนเพื่อได้พักผ่อนและทำการรักษาอาการบาดเจ็บที่เท้ามีอาการพองจากการเดินธุดงค์ โดยเข้าจำวัดยังวัดเชตวนาราม (วัดน้ำดิบ) ตำบลหนองปลิง อำเภอเมือง จังหวัดกำแพงเพชร โดยเข้ากราบนมัสกาลหลังได้รับความเมตตาจากครูบาโชคชัย ที่ได้นิมนต์ให้จำวัดเพื่อจะได้สนทนาธรรมระหว่างธุดงค์ในครั้งนี้ด้วย

บุกค้นบ้านครูโอ๊ะ-สจ.โต้ง ล่าจับนายกฯ สุนทร ตร.ปูพรม 5 จุดปราจีนคว้าน้ำเหลว-ไหวตัวหนี ลุ้นคดีรุกป่าเขาใหญ่หมดอายุความวันนี้

เมื่อวันที่ 13 มิถุนายน ผู้สื่อข่าวรายงานเมื่อวันที่ 12 มิ.ย.ที่ผ่านมาว่า พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (ผบช.ก.) สั่งการให้ตำรวจกองบังคับการป้องกันปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ (บก.ปปป.), ตำรวจกองบังคับการปราบปราม (บก.ป.) และตำรวจทางหลวง (บก.ทล.) กระจายกำลังเข้าตรวจค้นพื้นที่เป้าหมายจำนวน 5 จุด ในพื้นที่ จ.ปราจีนบุรี เพื่อตามจับกุมตัว นายสุนทร วิลาวัลย์ นายก อบจ.ปราจีนบุรี ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญาทุจริตและประพฤติมิชอบภาค 2 ลงวันที่ 9 มิถุนายน 2565 ข้อหาสนับสนุนเจ้าพนักงานมีหน้าที่ซื้อ ทำ จัดการ รักษาทรัพย์ใดๆ ใช้อำนาจในตำแหน่งโดยทุจริต อันเป็นการเสียหายแก่รัฐ เทศบาล สุขาภิบาล บิดาของ นางกนกวรรณ วิลาวัลย์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ หลังตกเป็นผู้ต้องหาในคดีบุกรุกอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ ใน จ.ปราจีนบุรี พื้นที่กว่า 150 ไร่ ยังอยู่ระหว่างการหลบหนี

ทั้งนี้ เป้าหมายสำคัญในการเข้าตรวจค้นครั้งนี้ อยู่ที่บ้านเลขที่ 21/1 ถ.วัดโรมันอุทิศ ต.หน้าเมือง อ.เมือง จ.ปราจีนบุรี บ้านพักของนางกนกวรรณ วิลาวัลย์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ ลูกสาวนายสุนทร , บ้านเลขที่ 43 ถ.วัดโรมันอุทิศ ต.หน้าเมือง อ.เมือง จ.ปราจีนบุรี สำนักงานของนายสุนทร, โรงแรมบางปะกง เลขที่ 41 ถ.วัดโรมันอุทิศ ต.หน้าเมือง อ.เมือง จ.ปราจีนบุรี และบ้านพักของ นายชัยเมศร์ สิทธิสนิทพงศ์ หรือชื่อเดิมคือ นายเต็มพงษ์ ฤทธิ์เดช หรือ ส.จ.โต้ง อายุ 46 ปี ผู้กว้างขวางในพื้นที่และมีความใกล้ชิดกับนายสุนทร

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เบื้องต้นจากการเข้าตรวจค้นและตรวจสอบ ยังไม่พบตัวนายสุนทร คาดว่าไหวตัวทันชิงหลบหนีออกจากพื้นที่ไปได้ไม่นาน จากการสอบถามบุคคลใกล้ชิด ส่วนใหญ่อ้างว่าไม่พบเห็นหรือติดต่อกับนายสุนทรมานานกว่า 1 สัปดาห์ ก่อนหน้าออกหมายจับ แต่เจ้าหน้าที่เองก็ยังไม่ปักใจเชื่อ พร้อมกระจายกำลังลงพื้นที่ไล่สืบหาเบาะแสเพื่อแกะรอยติดตามตัวให้ได้ก่อนที่คดีดังจะหมดอายุความลงในวันที่ 13 มิถุนายน

คดีนี้มีอายุความ 20 ปี นับจากวันที่กระทำผิดในปี 2545 โดยนาย นิวัติไชย เกษมมงคล เลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ระบุว่า ป.ป.ช.เพิ่งได้รับสำนวนคดีจากตำรวจเมื่อปี 2563 ก็เร่งพิจารณามาโดยตลอด จนสรุปสำนวนชี้มูลความผิดได้

พร้อมประสานกับตำรวจเพื่อหาทางนำตัว นายสุนทรมารายงานตัวต่ออัยการให้ทันวันที่ 13 มิถุนายน ก่อนคดีหมดอายุความ หากคดีหมดอายุความไปจริง ป.ป.ช.จะพิจารณาดำเนินการถอดถอนนายสุนทรออกจากตำแหน่งนายก อบจ.ปราจีนบุรี ต่อไป

จิบชายามบ่าย ปังๆ สไตล์ผู้ดีอังกฤษ บนโรงแรมห้าดาวสุดหรูใจกลางกรุงเทพฯ

สายจิบชามาทางนี้! วันนี้บอสจะพาไปจิบชายามบ่ายแบบหรูหราปังๆ บนโรงแรมห้าดาวอย่าง Siam Kempinski Hotel Bangkok

กับ Afternoon Tea ที่ หนุมานบาร์ (Hanumanbar)

Afternoon Tea ที่ โรงแรมสยามเคมปินสกี้ เป็นอีกหนึ่งบาร์ชายามบ่ายที่กำลังมาแรงในช่วงนี้ บวกกับได้สัมผัสประสบการณ์ การดื่มชาแบบผู้ดีอังกฤษทั้งทางด้านรสชาติ และบรรยากาศรอบๆ ที่สบายๆ บวกกับเสียงดนตรี รู้สึกเหมือนนั่งจิบชาอยู่ที่สวนดอกไม้ สำหรับใครที่เป็นสายชอบดื่มชากับทานขนม แนะนำที่นี่ให้เป็นหนึ่งในชุดน้ำชายามบ่าย และตอนนี้เป็นช่วง Special กับ Summery Dream Afternoon Tea – Limited Edition Tea

เปิดทุกวัน : 2PM - 5AM (สำหรับ Summery Dream Afternoon Tea ตั้งแต่วันที่ 1 พฤษภาคม จนถึงวันที่ 31 สิงหาคม 2565)
คะแนนสำหรับที่นี่
ราคา 8.5/10  
บรรยากาศ 9/10 
การบริการ 8.5/10

บรรยากาศที่นั่งหน้าบาร์ที่หันหน้าเข้าหาโถงของโรงแรม

หนุมานบาร์ (ขึ้นมาจากที่จอดรถจะอยู่ด้านซ้ายมือ)

โรงแรมตกแต่งด้วยดอกไม้โทนชมพู ม่วง

ตู้เค้กด้านหน้าบาร์ แต่ละอันน่ากินมาก เห็นแล้วอยากสั่งทุกอันเลย

ฟังดนตรีไป จิบชาไป

เมนูชา และ Afternoon tea ของเราวันนี้

เราสั่งชาเป็นอารมณ์ Mixed Fruit รสชาติหอมเบอร์รี่มาก

ลาเต้เย็น

เมื่องานศิลปะ ขนมหวานและของคาวโคจรมาเจอกัน เลยเกิดเป็น Summery Dream Afternoon Tea – Limited Edition Tea ชุดน้ำชายามบ่ายที่เราสั่ง  โดยชุดน้ำชานี้ครีเอทโดยเชฟขนมหวาน แฟรงส์ อิสเทล ผสมผสานงานศิลปะของนักวาดภาพประกอบชาวไทย จิรายุ คูอมรพัฒนะ หรือในนาม จิรายุ คู (Jirayu Koo) ผู้ออกแบบน้องกลมกลม หญิงสาวทรวดทรงอวบที่มีคาแรกเตอร์สนุกสนาน และมั่นใจในตัวเอง

ไม่จำเป็นอย่าลอง!! น้องสาว 'น้ำพุ' โพสต์ดึงสติ 'กัญชาฟีเว่อร์' จุดจบพี่ชายก็เริ่มจาก 'กัญชา' นี่แหละ

เป็นกระแสที่ได้รับความนิยมอยู่ในตอนนี้สำหรับพืชอย่าง "กัญชา" หลังรัฐบาลได้มีการประกาศปลดล็อคจากการเป็นสิ่งเสพติดไปหมาดๆ

อย่างไรก็ตาม ในขณะที่คนในสังคมออนไลน์เองต่างก็มีการพูดถึงเรื่องนี้ในวงกว้าง และส่วนใหญ่ดูเหมือนจะเห็นแต่ด้านดีๆ ของกัญชา ผู้ใช้เฟซบุ๊กชื่อ Benya Nandakwang ซึ่งเป็นของ

"เบญญา นันทขว้าง" อดีตผู้สมัครสส.บัญชีรายชื่อ พรรครวมพลังประชาชาติไทยก็ได้มีการโพสต์ข้อความเตือนสติถึงเรื่องนี้ โดยระบุว่า...

"น้ำพุ พี่ชายฉันที่เสียชีวิตไป ก็เริ่มจากกัญชานี่ละค่ะ ไม่จำเป็นก็อย่าลองจะดีที่สุด"

"น้ำพุ" เป็นชื่อเล่นของ "วงศ์เมือง นันทขว้าง" เกิดเมื่อวันอังคารที่ 13 มีนาคม พ.ศ. 2499 เป็นบุตรของ สุวรรณี สุคนธา นักเขียน, นักประพันธ์นวนิยายชื่อดัง กับ ทวี นันทขว้าง อาจารย์ประจำคณะจิตรกรรมประติมากรรมและภาพพิมพ์ มหาวิทยาลัยศิลปากร และเป็นศิลปินแห่งชาติ สาขาทัศนศิลป์ ประจำปี พ.ศ. 253

โดยเจ้าตัวเป็นลูกชายคนเดียวจากจำนวนพี่น้อง 4 คน (มีพี่สาว 1 คน น้องสาว 2 คน) ซึ่งหลังจากพ่อแม่หย่าจากกัน น้ำพุก็ได้ไปอาศัยอยู่กับมารดา

ด้วยความสนใจในเรื่องศิลปะทำให้เจ้าตัวตัดสินใจเข้าเรียนโรงเรียนช่างศิลป์ (วิทยาลัยช่างศิลปกรมศิลปากรในปัจจุบัน) อย่างไรก็ตามด้วยความที่เป็นเด็กที่มีจิตใจอ่อนไหวจากครอบครัวที่แตกแยกและที่บ้านมีแต่ผู้หญิง ทำให้เจ้าตัวติดเพื่อนและใช้ยาเสพติดเป็นที่พึ่ง กระทั่งท้ายที่สุดเจ้าตัวก็ต้องมาเสียชีวิตเพราะเสพเฮโรอีนเกินขนาดเมื่อวันที่ 28 พฤษภาคม พ.ศ. 2517 ด้วยวัยเพียง 18 ปี 2 เดือน 15 วันเท่านั้น

ช่วงหนึ่งของชีวิตในระหว่างที่เข้ารับการบำบัดที่ถ้ำกระบอก น้ำพุได้เขียนจดหมายถึงมารดาเป็นเรียงความสั้นๆ เรื่อง พฤติกรรมของวัยรุ่น, ครอบครัวของข้าพเจ้า ก่อนที่จะถูกตีพิมพ์เป็นหนังสือระลึกงานฌาปนกิจของตัวเอง

‘จุรินทร์’ ยังไม่อนุญาตให้ปรับราคา ‘บะหมี่กึ่งสำเร็จรูป’ รับสงครามรัสเซีย-ยูเครนทำต้นทุนพุ่ง แต่ขอความร่วมมือผู้ประกอบการตรึงราคาไว้ให้นานที่สุด ยึดวิน-วิน โมเดล ให้ทุกฝ่ายอยู่ร่วมกันได้

นายจุรินทร์  ลักษณวิศิษฏ์  รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ กล่าวถึงกรณีเครือสหพัฒน์ ผู้ผลิตและจำหน่ายสินค้าอุปโภคบริโภครายใหญ่ ขอปรับขึ้นราคาบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปหรือมาม่า ว่า ขณะนี้ กระทรวงพาณิชย์ ยังไม่อนุญาตให้ปรับขึ้นราคา แม้ว่าจะมีการร้องขอปรับราคามาหลายเดือนแล้ว โดยปัจจุบันบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปขายซองละ 6 บาท ซึ่งการปรับราคาก่อนหน้านี้เป็นการปรับราคาจากการบริหารจัดการภายในเป็นทอดๆ เช่น จากโรงงานไประบบค้าส่งไประบบค้าปลีก เป็นต้น แต่ปลายทางยังราคาซองละ 6 บาท สำหรับบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปพื้นฐานทั่วไป

อย่างไรก็ตามก็เห็นใจผู้ผลิต เพราะต้นทุนการผลิตอาหารเพิ่มขึ้นจากราคาน้ำมันที่พุ่งสูงขึ้นจากผลกระทบสงครามรัสเซีย-ยูเครน ที่ผ่านมากระทรวงฯ ได้ขอความร่วมมือให้ช่วยกันตรึงราคาสำหรับบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปมาหลายเดือนแล้ว และยังขอความร่วมมือตรึงราคาให้นานที่สุด

'วัน' แนะรัฐบาล ปรึกษา 'เฉลิม' แก้ปัญหายาเสพติด อัด 'ยุคประยุทธ์' ยาบ้าซื้อง่ายกว่าลูกอม

นายวัน อยู่บำรุง ส.ส.กรุงเทพมหานคร พรรคเพื่อไทย เปิดเผยว่า นโยบายแก้ปัญหายาเสพติดของ พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ผิดพลาดมาตั้งแต่หน่วยงานความมั่นคง ที่ปล่อยให้ยาเสพติดทะลักจากประเทศเพื่อนบ้านเข้ามาสู่พื้นที่กรุงเทพ รัฐบาลต้องใช้นโยบายป้องกันการนำเข้ายาเสพติดตั้งแต่ชายแดนที่ติดกับประเทศเพื่อนบ้าน เจ้าหน้าที่หน่วยงานความมั่นคงและหน่วยงานการปกครองต้องบูรณาการร่วมกัน ต้องสแกนทุกจุด เพื่อป้องกันมากกว่าปราบปราบ 

แม้ในช่วงที่ผ่านมาภาครัฐจะจับกุมยาเสพติดได้เป็นจำนวนมาก แต่ไม่ช่วยอะไร เพราะเน้นแต่การปราบปรามแต่ไม่มีนโยบายในการป้องกันและปกป้องประชาชน ส่งผลให้การแก้ปัญหายาเสพติดของรัฐบาลล้มเหลว ทั้งนี้ขบวนการยาเสพติดใช้เยาวชนไทยอายุต่ำกว่า 12 ปี เป็นเด็กเดินยาหมดแล้ว

รู้จัก 'นารี ตัณฑเสถียร' อัยการสูงสุดหญิงคนแรกของไทย ผู้สั่งฟ้องคดี 'จำนำข้าว-ไร่ส้ม' คนวงในการันตี ดีและเก่ง

เมื่อวันที่ 8 มิ.ย.ที่ผ่านมา ที่ประชุมคณะกรรมการอัยการ (ก.อ.) มีมติเอกฉันท์เห็นชอบให้ น.ส.นารี ตัณฑเสถียร อธิบดีอัยการ สำนักงานที่ปรึกษากฎหมาย ดำรงตำแหน่งอัยการสูงสุดคนใหม่ 

ทั้งนี้สืบเนื่องจากนายสิงห์ชัย ทนินซ้อน อัยการสูงสุดคนปัจจุบันจะมีอายุครบ 65 ปีบริบูรณ์ ในปีงบประมาณ พ.ศ.2565 นี้ ซึ่งตามกฎหมายจะต้องพ้นจากตำแหน่งอัยการสูงสุดไปดำรงตำแหน่งอัยการอาวุโส ตามความในมาตรา 39 แห่งพระราชบัญญัติระเบียบข้าราชการฝ่ายอัยการ พ.ศ. 2553 สำหรับขั้นตอนต่อไป สำนักงานอัยการสูงสุดจะดำเนินการตามขั้นตอนของพระราชบัญญัติองค์กรอัยการและพนักงานอัยการ พ.ศ. 2553 มาตรา 10 โดยจะมีหนังสือกราบเรียนประธานวุฒิสภา เพื่อให้นำเข้าที่ประชุมวุฒิสภาพิจารณาให้ความเห็นชอบ และเมื่อได้รับความเห็นชอบจากวุฒิสภาแล้วก็จะนำความขึ้นกราบบังคมทูลเพื่อทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ต่อไป

น.ส.นารี ตัณฑเสถียร ว่าที่อัยการสูงสุดคนที่ 17 สําเร็จการศึกษานิติศาสตรบัณฑิต จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และเนติบัณฑิตไทย ปริญญาโทด้านกฎหมายเปรียบเทียบ Howard University, Wash, DC USA ปริญญาโทด้านกฎหมายระหว่างประเทศ The American University Wash, DC USA และปริญญาโทด้านกฎหมายการให้ความร่วมมือทางอาญาระหว่างประเทศ Vrije University of Brussel, Belgium (ทุนรัฐบาลเบลเยียม)

น.ส.นารี เริ่มทำงานปี พ.ศ. 2528 ในสำนักงานคดีอาญาธนบุรี สำนักงานคดีอาญา สำนักงานอัยการสูงสุด และสำนักงานที่ปรึกษากฎหมาย โดยทำหน้าที่ให้คำปรึกษากฎหมายแก่หน่วยงานภาครัฐ และเจรจา ตรวจร่างสัญญาภาครัฐ

ในปีพ.ศ. 2553 เป็นอาจารย์ (พิเศษ) คณะนิติศาสตร์จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย

ในปีพ.ศ. 2554 เคยดำรงตำแหน่งเลขานุการรองอัยการสูงสุด (นายตระกูล วินิจนัยภาค), เลขานุการอัยการสูงสุด และปัจจุบันดำรงตำแหน่งอธิบดีอัยการ สำนักงานที่ปรึกษากฎหมาย

ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมามีผลงานโดดเด่น อาทิ คดีเพชรซาอุฯ คดีฆ่าเจ้าหน้าที่การทูตซาอุฯ สัญญาเกี่ยวกับพลังงาน สัญญาเกี่ยวกับการพัฒนาพื้นที่เชิงพาณิชย์ สัญญาร่วมลงทุน สัญญาการจัดหาวัคซีนและยารักษาโรคระบาดโควิด-19 และได้รับเลือกเป็น ก.อ. ผู้ทรงคุณวุฒิ (ประเภทข้าราชการอัยการชั้น 5 ขึ้นไป) 2 สมัย

ฝ่ายค้าน เปิดยุทธการ 'เด็ดหัว สอยนั่งร้าน' ซักฟอก 10 รมต. 3 ป.นำทีมถูกเด็ด เผย 15 มิ.ย. พร้อมยื่น มั่นใจข้อมูลแน่น แง้ม มีใบเสร็จทางการเมืองล้มรัฐบาลได้แน่

(9 มิ.ย.) ที่รัฐสภา พรรคร่วมฝ่ายค้าน 6 พรรค ประกอบด้วย พรรคเพื่อไทย, พรรคก้าวไกล, พรรคเสรีรวมไทย, พรรคประชาชาติ, พรรคเพื่อชาติ และพรรคพลังปวงชนไทย นำโดย นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว ส.ส.น่าน และหัวหน้าพรรคเพื่อไทย ในฐานะผู้นำฝ่ายค้าน แถลงว่า พรรคร่วมฝ่ายค้านมีมติร่วมกันว่าจะยื่นญัตติขอเปิดอภิปรายไม่ไว้วางใจคณะรัฐมนตรี (ครม.) เป็นรายบุคคล ตามรัฐธรรมนูญมาตรา 151 ในเวลา 10.00 น. วันที่ 15 มิ.ย.นี้ โดยกำหนดการอภิปรายครั้งนี้ว่าเป็นยุทธการ 'เด็ดหัว สอยนั่งร้าน' 

ดังนั้น จะเป็นการอภิปรายเด็ดหัวนายกรัฐมนตรี และครม.เป็นรายบุคคล ในประเด็นข้อกล่าวหาเกี่ยวกับความผิดพลาดล้มเหลวการบริหารราชการแผ่นดิน จงใจฝ่าฝืนรัฐธรรมนูญและมาตรฐานจริยธรรม ส่อทุจริตเอื้อประโยชน์ ไม่ปฏิบัติตามนโยบายที่แถลงไว้ต่อรัฐสภาหรือเรื่องที่ฝ่ายค้านเคยอภิปรายทักท้วงไว้ การละเมิดสิทธิมนุษยชน และทำลายระบอบประชาธิปไตยระบบรัฐสภา ซึ่งในกรอบ 6 เรื่องนี้ เรามั่นใจในข้อมูลจาก 6 พรรคร่วมฝ่ายค้าน บวกกับพรรคไทยศรีวิไลย์ที่จะมาร่วมอภิปรายด้วย

เมื่อถามว่า การอภิปรายครั้งนี้จะส่งผลให้ล้มรัฐบาลได้หรือไม่ นพ.ชลน่าน กล่าวว่า พิจารณาจากข้อกล่าวหาในประเด็นทุจริตทำผิดกฎหมาย เรามั่นใจ เพราะเป็นข้อกล่าวหาที่ชี้ชัดลงไป เรามีใบเสร็จทางการเมืองที่จะชี้ให้เห็น จึงมีความมั่นใจ โดยเฉพาะรัฐมนตรีที่ทำผิดต่อกฎหมาย ส่วนนายกฯ จะเป็นผลพวงจากหน้าที่ที่ท่านกำกับดูแล 

ทั้งนี้ ยืนยันว่า เสียงของฝ่ายค้านเหนียวแน่น แม้ว่าอาจแปรปรวนไปบ้างจากการลงมติที่ผ่านมา แต่เราไม่เคยนับคนกลุ่มนั้นว่าอยู่ในกลุ่มฝ่ายค้านอยู่แล้ว

เมื่อถามว่า การจะล้มรัฐบาลได้จะต้องมีพลังที่ไม่ใช่จากพรรคฝ่ายค้านอย่างเดียวใช่หรือไม่ นพ.ชลน่าน กล่าวว่า เราต้องมีสมาชิก และพรรคที่เห็นพ้องกับเรา ว่าข้อกล่าวหาที่เราตั้งเป็นสิ่งที่เขายอมรับ และไว้วางใจไม่ได้ ซึ่งเป็นเอกสิทธิ์ที่เขาจะตัดสินใจ

เมื่อถามว่า วุฒิสภาจะยื่นเปิดอภิปรายทั่วไปโดยไม่ลงมติ จะเป็นการฟอกขาวรัฐบาลหรือไม่ นพ.ชลน่าน กล่าวว่า ต้องดูเนื้อหาของรัฐธรรมนูญที่ระบุว่าส.ว.เข้าชื่อยื่นได้ แต่เป็นการให้ครม.มาแถลงข้อเท็จจริง หรือชี้แจงปัญหาสำคัญในการบริหารราชการแผ่นดิน ถ้าเป็นเช่นนั้นก็ถือเป็นการทำหน้าที่ตรวจสอบควบคุมการบริหารราชการแผ่นดิน แต่ถ้านอกเหนือจากนี้ก็อาจเข้าข่ายฟอกขาวได้ ทั้งนี้ เราต้องเฝ้าดูเนื้อหาสาระในญัตติของ ส.ว. เพราะตามรัฐธรรมนูญเขามีสิทธิ์ยื่นได้ พร้อมกับดูพฤติกรรมในการอภิปราย ถ้าไม่ใช่ข้อเท็จจริง แต่มาแถลงผลงานหรือมาตอบผลสัมฤทธิ์ ก็เข้าข่ายว่าน่าจะไม่ชอบตามบทบัญญัติรัฐธรรมนูญ แต่ใช้วุฒิสภาในการฟอกขาว ซึ่งประชาชนจะจับตาดู

'นักวิชาการอิสระ' โพสต์!! เพิ่งทำงานไป 8 วัน ขอลากิจ 4 วัน ขณะที่ไอ้เฒ่าเป่าหูนศ. ในไทยไม่ให้ไปรับปริญญา

นายอัษฎางค์ ยมนาค นักวิชาการอิสระ โพสต์ข้อความในเฟซบุ๊ก 'เอ็ดดี้ อัษฎางค์ ยมนาค' ดังนี้...

ขำ ตลกร้ายเสียจริง

“ถ้าหยุด(งาน)ไป เวลาทำงานก็น้อยลง”

แต่หลังจากทำงานไป 8 วัน….

ผมขอลากิจ 4 วันนะครัช ลูกรับปริญญาที่ต่างประเทศ

นักท่องเที่ยวอึ้ง!! เจอร้านอาหารริมหาดแม่รำพึง จังหวัดระยอง วางบิลเรียกเก็บค่าหอยหวาน 1 จาน ราคา 1,530 บาท

โดยผู้ที่ออกมาร้องเรียน คือ นางสาวอัจฉรารัตน์ หงษา พนักงานโรงงานอุตสาหกรรม อำเภอปลวกแดง จังหวัดระยอง ได้พาเพื่อนๆ ที่มีทั้งคนจีนและคนไทย รวม 6 คน ไปกินอาหารทะเลที่ร้านอาหารริมหาดแม่รำพึง ตำบลตะพง อำเภอเมือง จังหวัดระยอง และสั่งอาหารทะเลมาจำนวน 14 รายการ เช่น กุ้งมังกรเผา หอยนางรมสดทรงเครื่อง ปลานึ่งซีอิ๊ว ปูม้านึ่งและเผา ปลากะพงเผาเกลือ และอื่นๆ

1 ใน 14 เมนู มีหอยหวาน 1 จาน น้ำหนักรวมไม่น่าจะถึง 1 กิโลกรัม หลังจากที่กินกันเสร็จ ก็เรียกเช็กบิล ปรากฏว่า ราคารวมแล้ว 8,484 บาท แต่ที่ทุกคนตกใจคือเมนูหอยหวาน จานเดียวคิดราคา 1,530 บาท แพงกว่ากุ้งมังกร 1 ตัว ที่มีราคา 1,500 บาทเท่านั้น ส่วนราคาอาหารอย่างอื่นปกติ 

นายกฯ ยินดี ไทยเป็นเจ้าภาพจัดประชุมสหพันธ์สเก็ตน้ำแข็งนานาชาติ ครั้งที่ 58 หนุน กีฬาสเก็ตน้ำแข็งไทย - อุตสาหกรรมการจัดประชุมระดับนานาชาติ สู่เวทีระดับโลก

(9 มิ.ย. 65) นายธนกร วังบุญคงชนะ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ชื่นชมการทำงานของหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ซึ่งน่ายินดีที่ประเทศไทยได้เป็นเจ้าภาพจัดการประชุมสหพันธ์สเก็ตน้ำแข็งนานาชาติ ครั้งที่ 58 (The 58th ISU Congress) ณ จังหวัดภูเก็ต ระหว่างวันที่ 5-11 มิถุนายน 2565 

เชื่อมั่นว่าจะเป็นโอกาสแสดงศักยภาพด้านการจัดประชุมนานาชาติ รวมทั้งผลักดันการท่องเที่ยวไทย โดยนายกรัฐมนตรีได้กำชับทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้ดำเนินงานอย่างมีประสิทธิภาพ ร่วมนำเสนอความเป็นไทย การเป็นเจ้าภาพที่ดีเพื่อเปิดรับโอกาสในการจัดกิจกรรมและการประชุมระดับนานาชาติในอนาคต

นายธนกร กล่าวว่า ภายหลังรัฐบาลได้ปรับมาตรการผ่อนคลายการเดินทางเข้าไทยของนักท่องเที่ยวตามสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ในประเทศซึ่งสอดคล้องกับสถานการณ์โลก ประเทศไทยก็กลับมาสู่กระแสการท่องเที่ยว การกีฬา และการจัดการประชุมระหว่างประเทศ ซึ่งประเทศไทยได้รับเลือกเป็นเจ้าภาพจัดการประชุมสหพันธ์สเก็ตน้ำแข็งนานาชาติ ครั้งที่ 58 (The 58th Congress of the International Skating Union (ISU) จัดขึ้นระหว่างวันที่ 5-11 มิถุนายน 2565 ณ โรงแรมฮิลตัน ภูเก็ต อาร์คาเดีย รีสอร์ต แอนด์ สปา จังหวัดภูเก็ต ภายใต้แนวคิดต้นแบบการประชุมรักษ์โลก (Green Meeting) 

นายธนกร กล่าวว่า ในระหว่างงานประชุมดังกล่าว ผู้เข้าร่วมประชุมทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติได้เยี่ยมชมย่านชุมชนเมืองเก่าภูเก็ต (Phuket Old Town) และสถานที่ท่องเที่ยวทางธรรมชาติที่สำคัญของจังหวัดภูเก็ต และได้รับชมการแสดงทางวัฒนธรรม ได้แก่ การแสดงโขน และ การรำมโนราห์ ซึ่งได้รับการขึ้นทะเบียนให้เป็นมรดกวัฒนธรรมที่จับต้องไม่ได้ (Intangible Cultural Heritage : ICH) ของมนุษยชาติ จากองค์การการศึกษา วิทยาศาสตร์ และวัฒนธรรมแห่งสหประชาชาติ (United Nations Educational, Scientific and Cultural Organization) หรือ ยูเนสโก (UNESCO) ถือเป็นโอกาสนำเสนออัตลักษณ์ที่โดดเด่นของประเทศไทย 

'พล.ท.นันทเดช' บอกในฐานะ FC หมอชลน่าน แนะต้องทวงคืนศักดิ์ศรีหัวหน้าพรรคเพื่อไทยด่วน ไม่งั้นศึกอภิปรายไม่ไว้วางใจก็พ่ายยับเหมือนกฎหมายงบประมาณ

(9 มิ.ย.65) พล.ท.นันทเดช เมฆสวัสดิ์ อดีตหัวหน้าศูนย์ปฏิบัติการพิเศษ ศูนย์รักษาความปลอดภัยแห่งชาติ (ศรภ.) โพสต์เฟซบุ๊กในหัวข้อ 'พรรคฝ่ายค้านใครเป็นผู้นำใครกันแน่' มีเนื้อหาว่า...

ในระยะนี้ ผมสงสารหมอชลน่าน ทั้งในฐานะหัวหน้าพรรคเพื่อไทย และผู้นำพรรคฝ่ายค้านในสภา เพราะ...

1.การออกพบปะประชาชน ที่ จ.สุรินทร์ ของหัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย (คุณอุ๊งอิ๊ง) ซึ่งไม่สามารถมาได้ เนื่องจากป่วยนั้น ตามปกติผู้ที่มาปฏิบัติหน้าที่แทน ควรเป็นหัวหน้าพรรคคือ คุณหมอชลน่าน แต่กลับมีการมอบหน้าที่เรื่อง การพบปะประชาชนนี้ "ข้าม" ผ่าน หมอชลน่าน ไปให้ "คุณโอ๊ค" แทน…เสียหน้าหมอหมดไหมล่ะ

2.คราวนี้มาดูบทบาทของหมอ "ชลน่าน" ในฐานะผู้นำพรรคฝ่ายค้านบ้าง ผลการอภิปราย เรื่องงบประมาณ ที่ออกมาแพ้ยับเยินเกินความคาดหมาย หมอจะทำอย่างไรต่อไป ถ้าการอภิปรายไม่ไว้วางใจที่กำลังมาถึงนี้ มีแนวโน้ม จะ "แพ้" ในรูปแบบเดิมอีก

จเรตำรวจแห่งชาติ ชื่นชม ‘ครู ตชด.’ หัวใจแกร่ง แบกนักเรียนป่วย ฝ่าทางทุรกันดาร ช่วยชีวิตทันเวลา

ตามที่ปรากฏข่าว ครูศูนย์การเรียนตำรวจตระเวนชายแดนบ้านโกแประได้ช่วยเหลือนักเรียนชั้น ป.2 มีอาการหอบหืดกำเริบ แบกนักเรียนเดินทางด้วยความยากลำบาก ไปลงเรือ และเช่าเหมารถชาวบ้านต่อเพื่อไปส่งโรงพยาบาลแม่สะเรียง

ล่าสุด เมื่อวันที่ 8 มิ.ย.2565 พล.ต.อ.วิสนุ ปราสาททองโอสถ จเรตำรวจแห่งชาติ ได้มีหนังสือ จตช.ที่ 0001(จตช)/123 ลง 8 มิ.ย.2565 ถึง ผบช.ตชด.เพื่อชมเชย ส.ต.อ.กิจตณศักดิ์ เจริญธนหิรัญกิจ ครูศูนย์การเรียนตำรวจตระเวนชายแดนบ้านโกแประ ตำบลแม่คง อำเภอแม่สะเรียง จังหวัดแม่ฮ่องสอน กรณี ช่วยเหลือนักเรียนชั้นประถมปีที่ 2 ซึ่งมีอาการหอบหืดกำเริบ เมื่อวันที่ 5 มิ.ย.2565 เวลา 04.30 โดยได้แบกนักเรียนขึ้นหลัง เดินเท้ากว่า 2.5 กม. ก่อนไปว่าจ้างเรือผ่านไปตามแม่น้ำสาละวินใช้เวลาเกือบชั่วโมง เพื่อไปเช่าเหมารถชาวบ้านอีกต่อหนึ่ง จนส่งถึงมือแพทย์ รพ.แม่สะเรียง และนำตัวนักเรียนที่ป่วยเข้ารักษาเร่งด่วนในห้อง ICU จนอาการปลอดภัย

พล.ต.อ.วิสนุฯ ได้ตอบข้อซักถามผู้สื่อข่าวว่า ในฐานะเจรตำรวจแห่งชาติ มีหน้าที่กำกับดูแลและส่งเสริมงานด้านจริยธรรมคุณธรรมของข้าราชการตำรวจ รวมถึงทำหน้าที่ประธานอนุ ก.ตร.เกี่ยวกับการส่งเสริมจริยธรรมและการพัฒนาคุณธรรมฯ ได้รับรายงานกรณีดังกล่าว เห็นว่า ส.ต.อ.กิจตณศักดิ์ เจริญธนหิรัญกิจ ได้ทุ่มเทกำลังในการช่วยเหลือชีวิตนักเรียนในทุกวิถีทาง แม้จะเป็นช่วงเวลาวิกาล และต้องผ่านเส้นทางทุรกันดาร ทั้งทางบก ทางน้ำ รวมถึงมีข้อจำกัดในการใช้พาหนะการเดินทาง แต่ก็ไม่ย่อท้อ และใช้ความพยายามอย่างสุดความสามารถ จนช่วยชีวิตนักเรียนไว้ได้ทัน จึงทำหนังสือชมเชย ผ่าน ผบช.ตชด. เพื่อเป็นขวัญกำลังใจแก่ ส.ต.อ.กิจตณศักดิ์ ฯ และยกย่องให้เป็นแบบอย่างที่ดีแก่ข้าราชการตำรวจอื่นๆ ต่อไป 

'ทักษิณ' โหน 'ชัชชาติ' ทำงานแบบขยัน มีภาวะความเป็นผู้นำ มีความโปร่งใส เหมือนยุคตนเองเป็นนายกฯ ทำ Workshop ทำงานและถ่ายทอดสดช่อง11 ตลอดเวลา มันต้องตรงไปตรงมา

8 มิ.ย.2565 - แฟนเพจเฟซบุ๊ก CARE คิด เคลื่อน ไทย เผยแพร่คำพูดของนายทักษิณ ชินวัตร หรือ "โทนี่" อดีตนายกรัฐมนตรี ซึ่งกล่าวในรายการ CareTalk X Clubhouse หัวข้อ "ราชการไทย" ทำดีก็ได้ ทำไวก็เป็น เมื่อวันอังคารที่ 7 มิถุนายน 2565 ที่ผ่านมา มีเนื้อหาตอนหนึ่งว่า 

“...ถ้าคิดจะเป็นผู้นำแล้วคิดแต่จะขโมยคนของคนอื่น แบบนี้เป็นผู้นำไม่ได้หรอก...”

ถ้าผู้นำดี รู้ปัญหา ไม่มีข้าราชการคนไหนอยู่เฉยหรอก เขารู้ปัญหา เขารู้เรื่องหมดอยู่ที่ว่าเขาจะทำหรือเปล่า จะทำแบบรับเงินทอน หรือจะทำแบบตรงไหนตรงมา

ผู้ว่าฯ ชัชชาติทำงานแบบขยัน และมีภาวะความเป็นผู้นำ มีความโปร่งใส เวลาลงพื้นที่จุดไหนก็ live ไปด้วยทำให้ประชาชนได้เรียนรู้และรู้ปัญหาไปด้วย ส่วนไหนทำได้ ส่วนไหนทำไม่ได้ประชาชนก็จะได้เข้าใจ

เหมือนยุคผมเป็นนายกฯ ผมทำ Workshop ทำงานและถ่ายทอดสดช่อง 11 ตลอดเวลา ทำให้ประชาชนได้เรียนรู้วิธีทำงาน เรียนรู้เรื่องราวใหม่ๆ ในบ้านเมือง ไม่ใช่ผู้ว่าไม่ทำงาน

มันต้องตรงไปตรงมา วันนี้ตัวอย่างคือ “ดูไบ” เขาทำทุกอย่างมันโปร่งใสหมด คนทำมาหากินเขาก็รู้หมดว่าจะปฏิบัติตัวอย่างไร เพราะทุกอย่างมันชัดเจน นโยบาย ระเบียบ กติกามันต้องชัดเจน

ด่า ‘อีเหี้ย’ ไม่ผิดเสมอไป ‘ทนายแค้ง’ ไขข้อสงสัย ปมฟ้องหมิ่นถ้อยคำหยาบ ชี้ หากไม่ระบุในคำฟ้อง ไม่อาจนำสืบในศาลได้

นายพิมพ์พล แค้ง แสงเมือง ทนายความ ได้โพสต์ให้ความรู้กรณีหมิ่นประมาทด้วยถ้อยคำไม่เหมาะสม โดยระบุถึงคำว่า “อีเหี้ย” ซึ่งเป็นถ้อยคำแสดงการหมิ่นประมาทก็จริง แต่เมื่อไม่ได้ระบุไว้ในคำฟ้อง ก็จะนำมาสืบให้ศาลรับฟังในชั้นพิจารณาไม่ได้

โดยนายพิมพ์พล ได้อ้างถึงคำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1975/2562 ที่ระบุว่า

กรณีตาม ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 531 (2) เป็นการเรียกถอนคืนการให้เพราะเหตุผู้รับประพฤติเนรคุณด้วยการหมิ่นประมาทผู้ให้อย่างร้ายแรงนั้น มีความจำเป็นที่โจทก์จะต้องระบุมาในคำฟ้องให้ชัดเจนว่า

-จำเลยที่ 1 ผู้รับกล่าวถ้อยคำอย่างไร เมื่อใด ต่อใคร เพื่อเป็นข้อที่จะให้ศาลพิจารณาว่าเข้าเงื่อนไขที่จะเรียกถอนคืนการให้ได้หรือไม่ 

-ลำพังแต่การบรรยายว่าจำเลยที่ 1 ด่าว่าโจทก์ด้วยถ้อยคำหยาบคายอีกหลายครั้ง โดยไม่มีรายละเอียดว่า ด่าด้วยถ้อยคำว่าอย่างไร เหตุเกิดเมื่อใด ซึ่งจำเลยทั้งสามก็ให้การต่อสู้ว่า ฟ้องในส่วนนี้เคลือบคลุม 

-แม้โจทก์จะนำสืบในชั้นพิจารณาว่า จำเลยที่ 1 ด่าโจทก์ว่า "อีเหี้ย" และกล่าวว่า "มึงเอาน้ำกูไปใช้กี่ครั้งแล้ว" 

-แต่ตามคำเบิกความของโจทก์ก็ปรากฏว่า โจทก์จำวันเวลาเกิดเหตุไม่ได้ 


© Copyright 2021, All rights reserved. THE BOSS TIMES
Take Me Top