Monday, 4 December 2023
OnlineNewsAgency

เจ้าสาวยุค 2022 ยกขันหมาก หอบสินสอดมูลค่ากว่า 12 ล้าน ขอหนุ่มแต่งงาน เผย ไม่อยากรอฝ่ายชายมาขอ จัดเซอร์ไพรส์ขอแต่งงานเอง

เมื่อวันที่ 13 มีนาคม 2565 ที่งานพิธีมงคลสมรสระหว่างนางสาวพิชญา ภาโนมัย หรือ ใบหลิว อายุ 33 ปี และนายภานุพงษ์ เทพาจันทรักษ์ หรือ นิกกี้ อายุ 33 ปี ทั้งคู่เป็นชาวจ.ขอนแก่น จัดขึ้นภายในศูนย์ประชุมและแสดงสินค้านานาชาติขอนแก่น(KICE) ถ.มิตรภาพในเขตเทศบาลนครขอนแก่น ซึ่งเป็นคู่บ่าวสาวอีกหนึ่งคู่ที่มีการจัดพิธีมงคลสมรสในวันนี้ แต่ที่พิเศษไปกว่านั้นคือ ฝ่ายเจ้าสาวเป็นผู้หอบสินสอดทองหมั้นยกขบวนขันหมากมาสู่ขอฝ่ายชาย ต่างจากคู่อื่นๆ ที่จะเป็นเจ้าบ่าวยกขบวนขันหมากมาขอเจ้าสาว

โดนทันทีที่ถึงฤกษ์มงคล 08.29 น.นางสาวพิชญา ภาโนมัย หรือ ใบหลิว พร้อมญาติผู้ใหญ่ฝ่ายหญิงและเพื่อนเจ้าสาว ได้ตั้งขบวนขันหมากพร้อมสินสอดทองหมั้นมูลค่ารวมกว่า 12 ล้านบาท โดยมีทั้งเงินสดจำนวน 2 ล้านบาท เครื่องเพชรและทองคำรวมมูลค่า 5 แสนบาท โฉนดที่ดินที่ อ.อุบลรัตน์ จ.ขอนแก่น เนื้อที่ 5 ไร่มูลค่ากว่า 5 แสนบาท รถยนต์เก๋ง BMWซีรี่ส์3 ป้ายแดงราคา 2.8 ล้านบาท บ้านพร้อมที่ดินในหมู่บ้านภาภิรมย์จำนวน 1 หลังราคา 7 ล้านบาท 

ยกขบวนขันหมากแห่เข้าไปสู่ขอฝ่ายชายตามรูปแบบประเพณีของไทย ซึ่งก็จะมีทั้ง การผ่านด่านประตูเงินประตูทองที่ฝ่ายหญิงจะต้องพิสูจน์รักแท้เพื่อเข้าไปหาฝ่ายชายให้ได้ ซึ่งมีทั้งหมด 5 ประตู เมื่อผ่านทั้ง 5 ด่านแล้วก็เข้าสู่พิธีหมั้นที่ทั้งสองฝ่ายต่างสวมแหวนเพชรซึ่งกันและกัน สร้างความปลื้มปีติยินดีแก่ญาติพี่น้องทั้งสองฝ่ายและเพื่อนเจ้าบ่าวเจ้าสาวที่มาร่วมงานในวันนี้เป็นอย่างยิ่ง

นางสาวพิชญา ให้สัมภาษณ์กับผู้สื่อข่าวว่า ที่ตัวเองเป็นฝ่ายยกขบวนขันหมากขอแต่งงานนั้นก็อยากจะให้เป็นเซอร์ไพรส์แก่ฝ่ายชาย โดยได้ปรึกษาญาติผู้ใหญ่ทั้งสองฝ่ายแล้ว โดยทั้งสองฝ่ายก็ไม่ได้ขัดข้องอะไร สามารถทำได้เพราะก็ยังเป็นพิธีแต่งงานตามประเพณีไทยเหมือนเดิม แต่เปลี่ยนจากฝ่ายชายแสดงความรักเป็นฝ่ายหญิงเป็นผู้แสดงความรักแทน โดยก่อนหน้านี้ตนเองและฝ่ายชายเริ่มคบหากันมาก็นาน 8 ปีแล้ว ฟันฝ่าอุปสรรคมาด้วยกัน ผ่านร้อนผ่านหนาวมาด้วยกัน จนมีกิจการร้านอาหารในเมืองขอนแก่นและธุรกิจอื่นๆ ทำให้รู้ว่าตลอดระยะเวลาที่ผ่านมาตนเองเป็นผู้หญิงที่โชคดี มีฝ่ายชายคอยช่วยเหลือเคียงข้างมาตลอดและประสบผลสำเร็จด้วยกัน

ซึ่งฝ่ายชายกับตนเองก็คิดเรื่องแต่งงานมานานแล้วแต่ยังหาโอกาสเหมาะๆ ไม่ได้ ตนเองจึงอยากจะเซอร์ไพรส์เป็นฝ่ายแสดงความรักก่อน โดยการยกขบวนขันหมากไปขอฝ่ายชายเอง ซึ่งสินสอดทองหมั้นทุกบาททุกสตางค์ตนเองและฝ่ายชายร่วมกันหามาตั้งแต่ยังไม่มีอะไรเป็นชิ้นเป็นอัน ซึ่งครอบครัวของเราสองคนก็เห็นด้วย และในอีกมุมหนึ่งตนเองก็มองว่ายุคสมัยเปลี่ยนไปมาก ไม่จำเป็นว่าฝ่ายชายจะต้องเป็นคนยกขันหมากมาขอ แต่ฝ่ายหญิงก็สามารถทำได้เช่นกัน เพราะที่คุยกันเรื่องแต่งงานก็มีแค่คุยกันไว้ไม่ยอมมาขอสักที และมองดูเพื่อนๆ ที่อยู่รอบข้างก็ยังโสด ว่าที่เจ้าบ่าวก็ไม่ยอมขอสักที จึงเป็นอีกเหตุผลที่ยกขันหมากไปสู่ขอเอง เพราะไม่อยากรออีกแล้ว จึงได้หาฤกษ์ที่ดีและจัดการสู่ขอเจ้าบ่าวในวันนี้

ทางด้านนายภานุพงษ์ เทพาจันทรักษ์ หรือ นิกกี้ ฝ่ายเจ้าบ่าว กล่าวสั้นๆ ด้วยความตื่นเต้นและดีใจว่า รู้สึกตื้นตันใจอย่างมากที่ใบหลิวมาขอแต่งงานในวันนี้ เรื่องแต่งงานก็คุยกันมาตลอดแต่ไม่คิดว่าฝ่ายหญิงจะจัดการรวดเร็วขนาดนี้ ตนเองก็ไม่ขัดข้องจัดไปทันทีและก็มองว่าไม่ใช่เรื่องที่ผิด เราเข้าใจประเพณีไทยว่าเจ้าบ่าวต้องไปขอเจ้าสาวแต่งงาน แต่สิ่งที่สำคัญที่สุดคือความรัก เพราะเรารักกันก็ไม่จำเป็นต้องมีเหตุผลอะไรมาก อีกทั้งยุคสมัยเปลี่ยนไปแล้ว และครอบครัวทั้งสองฝ่ายก็ไม่ขัดข้อง ทุกอย่างลงตัว ถือว่าเป็นวันมงคลที่สุดในชีวิตอีกเหตุการณ์หนึ่งแล้ว


ที่มา: https://www.amarintv.com/news/detail/125741?utm_source=line&utm_medium=relate&utm_campaign=default&_trms=4f93b04771f0dc7d.1647234834442

บริษัทจีนเปิดตัว 'ประกันภัยผมร่วง' หลังคนหนุ่มสาวเสี่ยงหัวล้านเร็วขึ้น

จ้งอัน (Zhong An) บริษัทประกันภัยออนไลน์ของจีน เปิดตัวผลิตภัณฑ์ประกันภัยสำหรับผู้มีปัญหาผมร่วง ซึ่งนับเป็นครั้งแรกของจีนที่มีประกันภัยลักษณะนี้ เหตุเพราะชาวจีนในปัจจุบันมีความเสี่ยงหัวล้านเร็วกว่าเดิมมาก

โดยสำนักข่าวซินหัวของจีนรายงานว่าเมื่อวันศุกร์ (11 มี.ค.) บริษัท จ้งอัน ซึ่งเป็นบริษัทประกันภัยออนไลน์ของจีน ได้เปิดเผยรายละเอียดเกี่ยวกับ “ประกันภัยป้องกันผมร่วง” ด้วยการเสนอมาตรการสนับสนุนทางการเงินสำหรับปัญหาหนังศีรษะและเส้นผม ตลอดจนการปลูกผมแบบปลูกถ่ายหน่วยรูขุมขน (follicular unit transplantation)

ศีรษะล้านเคยเป็นสภาวะที่เกี่ยวข้องกับผู้สูงอายุหรือชายวัยกลางคนในจีน ทว่าคนรุ่นใหม่เผชิญปัญหาดังกล่าวกันมากขึ้น

สถานีวิทยุโทรทัศน์กลางแห่งประเทศจีน (CCTV) อ้างอิงผลสำรวจรายงานว่าผู้คนในจีนมากถึง 250 ล้านคน หรือ 1 ใน 6 อาจกำลังประสบปัญหาผมร่วง โดยตัวเลขจากบริษัทฯ ระบุว่าผู้คนมากถึงร้อยละ 84 ประสบปัญหาผมร่วงเมื่อมีอายุ 30 ปี ซึ่งเร็วกว่าคนรุ่นก่อนถึง 20 ปี

อนึ่ง จ้งอัน ซึ่งก่อตั้งปี 2013 เป็นบริษัทประกันภัยออนไลน์แห่งแรกของจีน ที่ดำเนินงานผ่านอินเทอร์เน็ตทั้งหมด และไม่มีหน้าร้านจริงเหมือนบริษัทประกันดั้งเดิม


ที่มา : https://www.xinhuathai.com/china/269441_20220312

ด่วน!! กกต. ประกาศเลือกตั้ง ผู้ว่าฯ กทม.

ที่ประชุมคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ได้พิจารณาร่างแผนการจัดการเลือกตั้ง และประกาศกำหนดให้มีการเลือกตั้งสมาชิกสภาท้องถิ่นและผู้บริหารท้องถิ่นของกรุงเทพมหานคร และเมืองพัทยาตามที่สำนักงานกกต.เสนอแล้ว มีมติเห็นชอบในหลักการตามร่างแผนการจัดการเลือกตั้ง 

ซึ่งตามแผนการจัดการเลือกตั้งดังกล่าวมีสาระสำคัญ ดังนี้  วันที่กกต.ประกาศกำหนดให้มีการเลือกตั้ง กกต.จะออกประกาศกำหนดให้มีการเลือกตั้งสมาชิกสภาท้องถิ่นและผู้บริหารท้องถิ่นของของกรุงเทพมหานคร และเมืองพัทยา ในวันศุกร์ที่ 25 มีนาคม 2565

ส่วนวันที่ผู้อำนวยการการเลือกตั้งประจำองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นประกาศให้มีการเลือกตั้งและวันสมัครรับเลือกตั้ง เมื่อกกต.ได้ประกาศกำหนดให้มีการเลือกตั้งสมาชิกสภาท้องถิ่นและผู้บริหารท้องถิ่นของของกรุงเทพมหานคร และเมืองพัทยาแล้ว ผู้อำนวยการการเลือกตั้งประจำองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นโดยความเห็นชอบของผู้อำนวยการการเลือกตั้งประจำจังหวัดจะออกประกาศให้มีการเลือกตั้งสมาชิกสภาท้องถิ่นและผู้บริหารท้องถิ่นของของกรุงเทพมหานคร และเมืองพัทยา ในวันอาทิตย์ที่ 22 พฤษภาคม 2565 และวันสมัครรับเลือกตั้งระหว่างวันพฤหัสบดีที่ 31 มีนาคม ถึงวันจันทร์ที่ 4 เมษายน 2565 เพื่อให้เป็นไปตามแผนการจัดการเลือกตั้งสมาชิกสภาท้องถิ่นและผู้บริหารท้องถิ่นของกรุงเทพมหานคร และเมืองพัทยา


ที่มา : https://www.matichon.co.th/politics/news_3232471

iOS 15.4 เปิดให้อัปเดตแล้ว ใช้ iPhone ปลดล็อก FaceID ขณะสวมหน้ากากอนามัย

Apple เปิดให้ผู้ใช้งาน iPhone อัปเดต iOS 15.4 แล้ว โดยมีความสามารถหลักในการปลดล็อกด้วยใบหน้า (FaceID) ขณะสวมหน้ากากอนามัย และเปิดให้ iPad สามารถใช้งาน Universal Control

สำหรับความสามารถใหม่ของ iOS 15.4 จะเปิดให้ใช้งาน FaceID ในขณะที่สวมหน้ากากอนามัย โดย iPhone จะเพิ่มทางเลือกให้ผู้ใช้สามารถปลดล็อกด้วย FaceID ในขณะที่สวมใส่หน้ากากอนามัย ซึ่งจะจดจำพื้นที่บริเวณรอบดวงตาเพื่อใช้ในการปลดล็อก โดยสามารถใช้งานได้บน iPhone 12 และรุ่นใหม่กว่า

นอกจากนี้ ยังเพิ่มฟีเตอร์ SharePay สำหรับการแบ่งปันประสบการณ์ในขณะที่สื่อสารผ่านทาง FaceTime อย่างการแชร์ภาพยนต์ หรือซีรีส์ให้รับชมร่วมกัน หรือเข้าถึงคอนเทนต์ที่รองรับ รวมถึงพัฒนาความสามารถของ Live Text เพิ่มเติมในแอป Notes และ Reminders ด้วยการเปิดใช้กล้อง คัดลอกและวางข้อความ

ส่วนใน iPad OS 15.4 จะช่วยให้ผู้ใช้งาน iPad ร่วมกับเครื่องแมค สามารถใช้เมาส์ และคีย์บอร์ดในการสั่งงานข้ามอุปกรณ์ได้ทันที เมื่อล็อกอินใช้งาน Apple ID เดียวกัน


ที่มา: https://mgronline.com/cyberbiz/detail/9650000025261

เตือนภัย! แก๊งคอลเซ็นเตอร์ มาแนวใหม่ อ้างค้างชำระค่าปรับจราจร หลอกเอาเงินประชาชน

ในช่วงที่ผ่านมา อาชญากรรมในรูปแบบของ มิจฉาชีพแก๊งคอลเซ็นเตอร์ ใช้การแอบอ้างเป็นไปรษณีย์, DHL, ปปง. หรือหน่วยงานบังคับใช้กฎหมาย โดยอ้างว่าบัญชีธนาคารของเรามีส่วนเกี่ยวข้องกับการกระทำความผิด ต้องโอนเงินมาให้เจ้าหน้าที่ตรวจสอบ เพื่อแลกกับการช่วยเหลือต่างๆ

ล่าสุด พบว่ามิจฉาชีพได้เปลี่ยนวิธีการแอบอ้างเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจ โดยโทรศัพท์หลอกว่ามีการค้างชำระค่าปรับจราจร หากไม่ชำระตอนนี้จะถูกดำเนินคดีตามกฎหมาย ทำให้มีประชาชนหลงเชื่อได้รับความเสียหายเป็นจำนวนมาก

สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ขอเตือนประชาชนอย่าหลงเชื่อโอนเงินให้ชำระค่าปรับจราจรเด็ดขาด และสามารถตรวจสอบด้วยตนเองว่ามีใบสั่งจราจรที่ค้างชำระค่าปรับหรือไม่ ผ่านทางเว็บไซต์ “ใบสั่งจราจรออนไลน์สำหรับประชาชน” https://ptm.police.go.th/ หรือสอบถามข้อมูลได้ที่ สายด่วนจราจร 1197


ที่มา: เพจ ไทยคู่ฟ้า 

ยูทูบเบอร์ดัง "คิวเท โอปป้า" เผยเจอทีมงาน 4 คนหักหลัง หนึ่งในนั้นเป็นโจรขโมยเงิน-แบรนด์เนม

เมื่อวันที่ 14 มี.ค. นายคิวเท ซิม หรือ คิวเท โอปป้า ยูทูบเบอร์ชื่อดังชาวเกาหลี ที่มีผู้ติดตาม 7.68 ล้านคน และเจ้าของบริษัทผลิตคอนเทนต์ป้อนสื่อโซเชียลฯ ได้โพสต์วิดีโอคลิปหัวข้อ "ทีมงานผมเป็นโจรครับ...และเขาก็อยู่กับผมมาตลอด 3 ปี" ระบุว่า เมื่อเดือน ธ.ค. 2564 ทีมงาน 4 คนเรียกตนเข้ามาคุย ทุกคนกล่าวว่า "พวกเราจะลาออก" 

ทีแรกคิดว่าถ่ายคลิปแกล้ง แต่สิ่งที่เกิดขึ้นคือทุกคนด่าตนประมาณ 2 ชั่วโมง โดยเลขาฯ กล่าวว่า "อยากได้เงินเพิ่ม" ถ้าไม่ได้ตามนี้จะลาออก บางคนอยากได้เวลาพักผ่อนเยอะขึ้น บางคนบอกว่าไม่สนุกก็ขอลาออก ถ้าไม่ได้ตามที่ต้องการ ตนได้ขอโทษทีมงานทุกคน แต่สุดท้ายทีมงานทั้ง 4 คนหายไปแว่บเดียว ทำให้ที่ผ่านมาลงคลิปน้อยมากเพราะทำไม่ไหว เหมือนต้องเริ่มจากศูนย์ใหม่

วันหนึ่งรู้สึกอยากขึ้นไปข้างบนห้องทีมงาน จึงเดินขึ้นไป ปรากฏว่าเจอข้อมูลบางอย่างที่ไม่เคยรู้มาก่อน โดยพบว่าทีมงานคุยนินทากันคุยใส่ร้ายกันเพื่อที่จะคิดคำพูดแย่ๆ ที่ทำให้รู้สึกเสียใจเพื่อที่จะขอสิ่งที่พวกเขาต้องการ คือ เงินเดือน เวลา วันหยุด ทั้งที่ทุกคนบอกชอบตน รักเป็นครอบครัว แต่พบว่าพวกเขาวางแผนมาก่อน ทั้งๆ ที่ตนกล่าวชื่นชมทีมงานมาตลอดว่าเยี่ยมที่สุด เก่งที่สุด ไม่เคยพูดอะไรไม่ดีหรือด้านลบถึงทีมงาน ที่ทีมงานกล่าวว่าขอเงินเพิ่มเพราะว่าให้น้อยหรือไม่ ตนมั่นใจว่าให้เยอะกว่าที่อื่น เพราะคิดว่าทุกคนคือครอบครัว เช่น คนตัดต่ออายุยังไม่ถึง 20 ปี จบการศึกษาแค่ ป.6 ตัดต่อไม่เป็น ใช้โปรแกรมแทบไม่เป็น แต่อยากทำงานกับตน จึงรับเข้ามาทำงาน สอนการตัดต่อทุกอย่าง และให้เงินเดือน 30,000 บาท

หลักฐานต่อมา คือ ทีมงานหนึ่งในนั้นที่อยู่ด้วยกันมา 3 ปี เป็นโจรขโมยของแบรนด์เนมมูลค่าหลักแสนบาท เอาไปขายในเว็บแบรนด์เนมมือสอง ที่ผ่านมาในชีวิตของหายทั้งเงิน เสื้อผ้า สิ่งของต่างๆ หายเป็นช่วงๆ ไม่ได้คิดว่ามีใครขโมย คิดว่าหายเอง ที่แย่มากคือ มีทีมงานไปนินทาว่าร้าย ใส่ร้าย สร้างเรื่องหมิ่นประมาทกับคนรอบตัวให้เกลียดตน สร้างเรื่องให้ทีมแตกแยก

ส่วนเลขาฯ เอาข้อมูลบริษัทไปแชร์ ที่ผ่านมาไม่เคยทำงานที่ไหนมาก่อน เป็นนักศึกษามหาวิทยาลัยที่เพิ่งจบใหม่ ที่รับเข้ามาเพราะเห็นความจริงใจในตัวเขา อ้างว่าทำอะไรได้หลายอย่าง แต่พอเข้ามาจริงก็ทำไม่ค่อยได้ ไม่มีประสบการณ์ ถามว่าอยากทำงานที่นี่หรือไม่ก็ตอบว่าอยากทำงานที่นี่ เลยรับเข้ามา แม้จะพลาดเรื่องงานลูกค้า เสียหายหลักแสนก็ให้กำลังใจ แม้กระทั่งวัคซีนที่หายากในขณะนั้นก็พยายามติดต่อเพื่อจัดหามาให้ กระทั่งเอกภาณุ ยูทูบเบอร์ดังยอมสละสิทธิ์ให้เลขาฯ ตน แต่กลับไม่นึกถึงบุญคุณ นินทาเอกภาณุ 

นอกจากนี้ยังจัดหาอุปกรณ์ทำงาน เช่น ไอแพด และให้ไปเรียนขับรถโดยที่ไม่ต้องเสียเงิน ให้รถยนต์มูลค่าหลักล้านบาทไปใช้ เมื่อนำรถไปชนก็ไม่เคยพูดด่าหรือพูดไม่ดี แต่เป็นห่วงเขา อยากให้มีความสุขในการทำงานที่นี่

ส่วนทีมงานเก่าที่เคยลาออกไปทำช่องยูทูบเอง ตนก็ให้โอกาสเปิดช่อง ช่วยปั้นช่องขึ้นมาใหม่ รายได้ที่เกิดจากช่องไม่เก็บสักบาท และดีใจที่เขาประสบความสำเร็จด้วยกัน แม้จะอินกับช่องจนไม่ได้ทำงานหลักให้เหมือนเดิม งานคุณภาพไม่เหมือนเดิม แต่ไม่เป็นไร เห็นว่าพัฒนาก็ดีใจ ตอนออกไปทำช่องคนเดียวตนให้คอมพิวเตอร์แมคบุ๊กมูลค่าหลักแสนบาทเพราะไม่มีคอมพิวเตอร์ตัดต่อ โดยไม่เก็บเงินสักบาท กลับมานินทาตน และเอกภาณุ โดยใช้ถ้อยคำรุนแรงแบบไม่เชื่อว่าเป็นอย่างนั้นจริง

ที่ผ่านมาสวัสดิการที่นี่บอกกับทีมงานทุกคนว่าอยากกินอะไรสั่งเลย ไม่เคยห้าม ค่าเดินทาง รถยนต์เพื่อเดินทาง และทุกอย่างตนให้เบิก บางเดือนค่ากินหลักแสนบาทไม่ว่ากัน ขอแค่ทุกคนมีความสุข เงินเดือนโบนัสก็ให้ครบไม่เคยหัก ไม่ว่าจะทำพลาด ทำเงินหาย ทำโปรเจกต์หาย ก็ไม่เคยลดเงินเดือน เพราะเข้าใจในสิ่งที่ทำพลาดและให้อภัย ไม่เข้าใจว่าทำไมทีมงานถึงคุยสนุกปาก ทำไมไม่พูดตรงๆ มีอะไรก็คุยกันตรงๆ แก้ไขกันได้ ไม่ใช่ว่าเงียบแล้วไปคุยกันเอง 

หลังๆ มีดรามาว่าตนจ่ายเงินให้เด็กนั่งดริงก์ 2 แสนบาท ซึ่งไม่ใช่เรื่องจริง ก็เอาไปคุยกันสนุกปาก ตนเสียใจมาก แต่ก็มีทีมงานคนหนึ่งให้ข้อมูลและสำนึกผิด แม้เขาเป็นหนึ่งในนั้นแต่ตนให้อภัยแล้ว ทั้งหมดจะดำเนินการตามกฎหมายพร้อมหลักฐาน ตั้งแต่เรื่องหลักทรัพย์ถึงเรื่องหมิ่นประมาท สุดท้ายไม่อยากให้พูดถึงเรื่องนี้อีก อยากให้ช่องยูทูบไปต่ออย่างมีคุณภาพ มีแฟนคลับ 7.6 ล้านคน อยากให้ช่วยกัน จะทำอะไรสนุกๆ ให้คนดูต่อไป ส่วนทีมงานที่ทำเรื่องแย่ๆ ตนจะเอาเรื่องให้ถึงที่สุด

ก่อนหน้านี้ คิวเท โอปป้า ได้ดำเนินการแจ้งความดำเนินคดีทีมงานเก่า ที่ สภ.บางแก้ว อ.บางพลี จ.สมุทรปราการ เนื่องจากพบหลักฐานว่าตากล้องขโมยทรัพย์สิน ได้แก่ เงินสด ของแบรนด์เนม และของมีค่าต่างๆ ในบ้าน รวมมูลค่าความเสียหายหลายแสนบาท ซึ่งล่าสุดสามารถรวบรวมหลักฐานและตามจับกุมทีมงานคนดังกล่าวได้แล้ว

ชมคลิป: https://www.youtube.com/watch?v=wfEbfNm8BFk&t=1s&ab_channel=KyutaeOppa


ที่มา: https://mgronline.com/onlinesection/detail/9650000025226

กรุงเทพมหานคร ออกประกาศฉบับที่ 51 ผ่อนมาตราการให้ดื่มสุราในโรงแรม ห้าง งานสัมมนา และงานจัดเลี้ยงได้ จนถึง 23.00 น. เริ่ม 15 มี.ค. นี้

เพจเฟซบุ๊ก "กรุงเทพมหานคร โดยสำนักงานประชาสัมพันธ์" ได้โพสต์ ประกาศกรุงเทพมหานครฯ ฉบับที่ 51 มีผล 15 มีนาคม 65 เป็นต้นไป โดยระบุข้อความว่า 

สามารถจัดประชุม สัมมนา หรือการจัดงาน ในโรงแรม ศูนย์แสดงสินค้า ศูนย์ประชุม สถานที่จัดนิทรรศการ ห้างสรรพสินค้า ศูนย์การค้า คอมมูนิตี้มอลล์ สถานที่ให้บริการห้องประชุม ห้องจัดเลี้ยง สถานที่จัดเลี้ยง หรือสถานที่อื่นที่มีลักษณะคล้ายกัน โดยถือปฏิบัติ ดังนี้

- ให้ปฏิบัติตามมาตรการปลอดภัยสำหรับองค์กรที่กำหนด

- ดำเนินการตามแนวปฏิบัติที่กระทรวงสาธารณสุขร่วมกับสำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ (องค์การมหาชน) กำหนดอย่างเคร่งครัด

- การบริโภคเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ในงานได้เฉพาะสถานที่ที่ผ่านการตรวจประเมินSHA PLUS หรือ Thai Stop Covid 2 Plus แล้วเท่านั้น

- บริการบริโภคสุราหรือเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์ได้ไม่เกินเวลา 23.00 น.

- จำนวนผู้เข้าร่วมงานให้พิจารณาตามความเหมาะสมของสถานที่ภายใต้แนวทางดำเนินการตามประกาศฯ ฉบับที่ 45 (30 ต.ค.64) ข้อ 6

- กรณีนอกเหนือจากที่กำหนดไว้ในประกาศนี้ เจ้าของสถานที่ ผู้ประกอบการ ผู้ใช้บริการผู้ร่วมกิจกรรม และบุคคลอื่นที่เกี่ยวข้อง ยังคงต้องดำเนินการตามประกาศกรุงเทพมหานคร เรื่อง สั่งปิดสถานที่

ดาวน์โหลดเอกสาร PDF: https://www.prbangkok.com/th/covid/detail/19/11163


 

 

 

GWM เผยโฉม 2 รุ่นใหม่ ครั้งแรกในไทย TANK 300 HEV - ORA Good Cat GT

เกรท วอลล์ มอเตอร์ เตรียมเผยโฉมรถยนต์ในกลุ่มพลังงานไฟฟ้า 2 รุ่นใหม่ครั้งแรกในประเทศไทย ได้แก่ 

TANK 300 HEV รถยนต์อเนกประสงค์ (เอสยูวี) ซึ่งมาพร้อมเครื่องยนต์ไฮบริด รูปทรงหน้าตาถูกวางตำแหน่งผลิตภัณฑ์ไว้สำหร้บผู้ที่ชื่นชอบการขับขี่แบบผจญภัยขาลุย ซึ่งยังสามารถตอบโจทย์การใช้งานภายในเมืองได้อีกด้วย

ORA Good Cat GT รถยนต์ไฟฟ้า ของ เกรท วอลล์ มอเตอร์ รุ่นตกแต่งพิเศษ ซึ่งมาพร้อมดีไซน์โฉบเฉี่ยวและอัดแน่นด้วยเทคโนโลยีเช่นเดิม

นอกจากนั้น ยังมีอีก 5 รุ่นไฮไลท์ภายในบูธ GWM ที่นำมาจัดแสดง

• All New HAVAL H6 Plug-in Hybrid SUV 
• All New HAVAL H6 Hybrid SUV 
• All New HAVAL JOLION Hybrid SUV 
• ORA Good Cat
• ORA Black Cat

สำหรับ ORA Black Cat รถยนต์พลังงานไฟฟ้า ขนาดกะทัดรัดอีกหนึ่ง ที่เคยนำมาจัดแสดงในงานบางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ ครั้งก่อนหน้านี้แล้ว และครั้งนี้เป็นอีกครั้งที่นำมาจัดแสดงภายในงานก่อนการเปิดตัวอย่างเป็นทางการตามแผนการตลาดของ เกรท วอลล์ มอเตอร์ ที่มีแผนจะนำเสนอผลิตภัณฑ์ในกลุ่ม รถยนต์ไฟฟ้า ตามแผนที่จะเป็นผู้นำในตลาด รถยนต์พลังงานไฟฟ้า xEV ในประเทศไทย

บูธของ เกรท วอลล์ มอเตอร์ ตั้งอยู่ที่บูธรหัส A4 ภายในงานบางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ ครั้งที่ 43 ณ อาคารชาเลนเจอร์ 1-3 อิมแพ็ค เมืองทองธานี ตั้งแต่วันที่ 23 มีนาคม – 3 เมษายน 2565


ที่มา: https://www.pptvhd36.com/news/ยานยนต์/168069

กรมการขนส่งทางบก เปิด 3 ข้อเท็จจริง เติมน้ำมันแบบไหนประหยัดที่สุด?

สำนักสวัสดิภาพการขนส่งทางบก กรมการขนส่งทางบก ไขข้อเท็จริงการประหยัดน้ำมันที่ผู้ใช้รถยังสับสน โดยระบุว่า เพราะน้ำมันแพงขึ้นทุกวัน! หลายคนจึงมีความเชื่อในการประหยัดน้ำมันที่แตกต่างกันออกไป…วันนี้เราชวนทุกท่านมาไขข้อเท็จจริง เรื่องประหยัดน้ำมันให้หายข้องใจกัน?

1. จริงหรือไม่? เติมน้ำมันตอนเช้า-ตอนกลางคืน จะได้ปริมาณน้ำมันเยอะกว่า เพราะมีอุณหภูมิต่ำกว่าตอนบ่าย น้ำมันยังไม่ขยายตัว

ข้อเท็จจริง: กฎหมายได้ควบคุมให้ปั้มน้ำมันทุกแห่งมีถังเก็บใต้ดินและมีการควบคุมอุณหภูมิ ดังนั้นจะไม่ส่งผลต่อปริมาณความหนาแน่นของน้ำมัน เติมน้ำมันเวลาไหนก็ได้ปริมาณน้ำมันไม่แตกต่างกัน

2. จริงหรือไม่? สตาร์ทเครื่องยนต์ อุ่นเครื่องก่อนขับ ช่วยประหยัดน้ำมัน

ข้อเท็จจริง: ยิ่งสตาร์ทเครื่องยนต์ทิ้งไว้นานเท่าใดยิ่งเผาผลาญน้ำมันไปเท่านั้น การขับรถออกไปช้าๆ เป็นการอุ่นเครื่องยนต์ที่ดีกว่า

3. จริงหรือไม่? เติมน้ำมันครึ่งถังเพื่อลดการระเหย ลดน้ำหนักเครื่องยนต์

ข้อเท็จจริง: การเติมน้ำมันเต็มถัง หรือ ครึ่งถัง มีความแตกต่างของน้ำหนักประมาณ 10 กิโลกรัมเท่านั้น การเติมน้ำมันให้เกิน 3/4 ของถัง หลังจากนั้นใช้งานจนเหลือเพียง 1/4 ของถังจึงค่อยเติม ช่วยถนอมรักษาเครื่องยนต์ได้ดีที่สุด ไม่ทำให้ปั๊มติ๊กเสื่อมสภาพ ระบายความร้อนได้ดี จ่ายน้ำมันในปริมาณที่เพียงพอสร้างแรงดันได้อย่างเหมาะสม ส่งผลดีต่อสมรรถนะการทำงานของเครื่องยนต์

วิธีช่วยประหยัดน้ำมัน

- เช็กลมยาง และควรเติมลมยางในขณะที่ยางไม่ร้อนเกินไปหรือในช่วงเวลาก่อนออกเดินทาง โดยสามารถดูคู่มือของรถคุณ หรือดูได้จากบนแผ่นโลหะบริเวณขอบประตูรถว่าควรเติมลมยางเท่าไหร่ดี

- ขับขี่ด้วยความเร็วคงที่ ไม่เบิ้ล ไม่กระชาก ไม่ลากเครื่องยนต์ การเร่งเครื่อง เหยียบคันเร่งจนมิด น้ำมันจะถูกฉีดเข้าห้องเผาไหม้ตามน้ำหนักเท้าของเรา ยิ่งเหยียบหนัก ยิ่งสิ้นเปลืองน้ำมันมาก

- GPS ช่วยได้ เพราะยิ่งคุณขับรถนานเท่าไร คุณจะใช้น้ำมันมากขึ้นเท่านั้น การให้ระบบจีพีเอสช่วยตรวจสอบเส้นทางล่วงหน้า หรือเลือกเส้นทางขับรถที่รวดเร็วที่สุดจะช่วยให้คุณประหยัดทั้งเงินและเวลา

- นำสัมภาระที่ไม่จำเป็นออก เพราะน้ำหนักส่วนเกินบนรถจะส่งผลอย่างมากต่ออัตราการสิ้นเปลืองน้ำมัน น้ำหนักที่เพิ่มขึ้นประมาณ 20 กิโลกรัมจะลดอัตราการประหยัดน้ำมันราวร้อยละ 1


ข้อมูลจาก สำนักสวัสดิภาพการขนส่งทางบก กรมการขนส่งทางบก
https://www.facebook.com/safety.dlt/photos/a.576373672447246/5097193573698544

กาฬสินธุ์จับโจรสุดแสบ ขับรถตะเวนขโมยดูดเจาะถังน้ำมันรถบรรทุกชาวบ้าน ก่อนนำไปขายในราคาถูก สารภาพหาเงินซื้อเหล้าดื่มและเสพยาเสพติด

ตำรวจสภ.เมืองกาฬสินธุ์ คุมตัวนายเตียง อายุ 55 ปี อยู่ อ.เมือง จ.กาฬสินธุ์ ผู้ต้องหาก่อเหตุตะเวนขโมยเจาะถังน้ำมันและดูดน้ำมันรถบรรทุกของประชาชนที่จอดอยู่ริมถนน ไปทำแผนและชี้จุดประกอบคำรับสารภาพ บริเวณถนนบายพาสทุ่งมน ใกล้ทางเข้าวัดป่าทุ่งศรีเมือง ต.กาฬสินธุ์ อ.เมือง จ.กาฬสินธุ์ 

หลังก่อเหตุขโมยน้ำมันรถบรรทุกที่อยู่จอดบริเวณดังกล่าวเมื่อช่วงกลางดึกที่ผ่านมา กระทั่งเจ้าของรถตื่นมาเห็นแล้วแจ้งตำรวจเข้าจับกุมตัวได้ พร้อมของกลางรถยนต์ แกรอนใส่น้ำมัน สายยาง ถังแก๊ส และอุปกรณ์ช่างจำนวนหลายรายการ

เบื้องต้นนายเตียง ผู้ต้องหารับสารภาพว่า ได้ก่อเหตุขโมยน้ำมันรถของชาวบ้านที่จอดไว้ริมถนนจริง โดยเน้นไปที่รถบรรทุกที่จอดอยู่ริมทาง เนื่องจากมีถังน้ำมันอยู่ด้านนอกตัวรถ โดยจะอาศัยช่วงเวลาดึกที่เจ้าของนอนหลับ ขับรถเก๋งมาจอดแล้วย่องเข้าไปแอบขโมยน้ำมัน ใช้อุปกรณ์ในการขโมยแตกต่างกันไปตามลักษณะของถังน้ำมัน มีวิธีทั้งการเปิดฝาถัง ใช้สายยางดูดออกมา หมุนนอตที่อยู่ใต้ถังออกแล้วใช้แกรอนลอนรองไว้ หรือใช้สว่านเจาะถังให้น้ำมันไหลลงใส่แกรอน 

ก่อนจะนำไปขายในราคาถูกกว่าปั๊มน้ำมันครึ่งต่อครึ่ง ขายครั้งละ 2 แกรอน จำนวน 20 ลิตร ราคา 300-350 บาท เฉลี่ยลิตรละ 15-17 บาท ก่อนจะนำเงินมาซื้อเหล้าดื่มและซื้อยาเสพติดมาเสพ


ที่มา: https://www.innnews.co.th/news/local/news_306685/


TRENDING
© Copyright 2021, All rights reserved. THE BOSS TIMES
Take Me Top