เจ้าสาวยุค 2022 ยกขันหมาก หอบสินสอดมูลค่ากว่า 12 ล้าน ขอหนุ่มแต่งงาน เผย ไม่อยากรอฝ่ายชายมาขอ จัดเซอร์ไพรส์ขอแต่งงานเอง
เมื่อวันที่ 13 มีนาคม 2565 ที่งานพิธีมงคลสมรสระหว่างนางสาวพิชญา ภาโนมัย หรือ ใบหลิว อายุ 33 ปี และนายภานุพงษ์ เทพาจันทรักษ์ หรือ นิกกี้ อายุ 33 ปี ทั้งคู่เป็นชาวจ.ขอนแก่น จัดขึ้นภายในศูนย์ประชุมและแสดงสินค้านานาชาติขอนแก่น(KICE) ถ.มิตรภาพในเขตเทศบาลนครขอนแก่น ซึ่งเป็นคู่บ่าวสาวอีกหนึ่งคู่ที่มีการจัดพิธีมงคลสมรสในวันนี้ แต่ที่พิเศษไปกว่านั้นคือ ฝ่ายเจ้าสาวเป็นผู้หอบสินสอดทองหมั้นยกขบวนขันหมากมาสู่ขอฝ่ายชาย ต่างจากคู่อื่นๆ ที่จะเป็นเจ้าบ่าวยกขบวนขันหมากมาขอเจ้าสาว
โดนทันทีที่ถึงฤกษ์มงคล 08.29 น.นางสาวพิชญา ภาโนมัย หรือ ใบหลิว พร้อมญาติผู้ใหญ่ฝ่ายหญิงและเพื่อนเจ้าสาว ได้ตั้งขบวนขันหมากพร้อมสินสอดทองหมั้นมูลค่ารวมกว่า 12 ล้านบาท โดยมีทั้งเงินสดจำนวน 2 ล้านบาท เครื่องเพชรและทองคำรวมมูลค่า 5 แสนบาท โฉนดที่ดินที่ อ.อุบลรัตน์ จ.ขอนแก่น เนื้อที่ 5 ไร่มูลค่ากว่า 5 แสนบาท รถยนต์เก๋ง BMWซีรี่ส์3 ป้ายแดงราคา 2.8 ล้านบาท บ้านพร้อมที่ดินในหมู่บ้านภาภิรมย์จำนวน 1 หลังราคา 7 ล้านบาท
ยกขบวนขันหมากแห่เข้าไปสู่ขอฝ่ายชายตามรูปแบบประเพณีของไทย ซึ่งก็จะมีทั้ง การผ่านด่านประตูเงินประตูทองที่ฝ่ายหญิงจะต้องพิสูจน์รักแท้เพื่อเข้าไปหาฝ่ายชายให้ได้ ซึ่งมีทั้งหมด 5 ประตู เมื่อผ่านทั้ง 5 ด่านแล้วก็เข้าสู่พิธีหมั้นที่ทั้งสองฝ่ายต่างสวมแหวนเพชรซึ่งกันและกัน สร้างความปลื้มปีติยินดีแก่ญาติพี่น้องทั้งสองฝ่ายและเพื่อนเจ้าบ่าวเจ้าสาวที่มาร่วมงานในวันนี้เป็นอย่างยิ่ง
นางสาวพิชญา ให้สัมภาษณ์กับผู้สื่อข่าวว่า ที่ตัวเองเป็นฝ่ายยกขบวนขันหมากขอแต่งงานนั้นก็อยากจะให้เป็นเซอร์ไพรส์แก่ฝ่ายชาย โดยได้ปรึกษาญาติผู้ใหญ่ทั้งสองฝ่ายแล้ว โดยทั้งสองฝ่ายก็ไม่ได้ขัดข้องอะไร สามารถทำได้เพราะก็ยังเป็นพิธีแต่งงานตามประเพณีไทยเหมือนเดิม แต่เปลี่ยนจากฝ่ายชายแสดงความรักเป็นฝ่ายหญิงเป็นผู้แสดงความรักแทน โดยก่อนหน้านี้ตนเองและฝ่ายชายเริ่มคบหากันมาก็นาน 8 ปีแล้ว ฟันฝ่าอุปสรรคมาด้วยกัน ผ่านร้อนผ่านหนาวมาด้วยกัน จนมีกิจการร้านอาหารในเมืองขอนแก่นและธุรกิจอื่นๆ ทำให้รู้ว่าตลอดระยะเวลาที่ผ่านมาตนเองเป็นผู้หญิงที่โชคดี มีฝ่ายชายคอยช่วยเหลือเคียงข้างมาตลอดและประสบผลสำเร็จด้วยกัน
ซึ่งฝ่ายชายกับตนเองก็คิดเรื่องแต่งงานมานานแล้วแต่ยังหาโอกาสเหมาะๆ ไม่ได้ ตนเองจึงอยากจะเซอร์ไพรส์เป็นฝ่ายแสดงความรักก่อน โดยการยกขบวนขันหมากไปขอฝ่ายชายเอง ซึ่งสินสอดทองหมั้นทุกบาททุกสตางค์ตนเองและฝ่ายชายร่วมกันหามาตั้งแต่ยังไม่มีอะไรเป็นชิ้นเป็นอัน ซึ่งครอบครัวของเราสองคนก็เห็นด้วย และในอีกมุมหนึ่งตนเองก็มองว่ายุคสมัยเปลี่ยนไปมาก ไม่จำเป็นว่าฝ่ายชายจะต้องเป็นคนยกขันหมากมาขอ แต่ฝ่ายหญิงก็สามารถทำได้เช่นกัน เพราะที่คุยกันเรื่องแต่งงานก็มีแค่คุยกันไว้ไม่ยอมมาขอสักที และมองดูเพื่อนๆ ที่อยู่รอบข้างก็ยังโสด ว่าที่เจ้าบ่าวก็ไม่ยอมขอสักที จึงเป็นอีกเหตุผลที่ยกขันหมากไปสู่ขอเอง เพราะไม่อยากรออีกแล้ว จึงได้หาฤกษ์ที่ดีและจัดการสู่ขอเจ้าบ่าวในวันนี้
ทางด้านนายภานุพงษ์ เทพาจันทรักษ์ หรือ นิกกี้ ฝ่ายเจ้าบ่าว กล่าวสั้นๆ ด้วยความตื่นเต้นและดีใจว่า รู้สึกตื้นตันใจอย่างมากที่ใบหลิวมาขอแต่งงานในวันนี้ เรื่องแต่งงานก็คุยกันมาตลอดแต่ไม่คิดว่าฝ่ายหญิงจะจัดการรวดเร็วขนาดนี้ ตนเองก็ไม่ขัดข้องจัดไปทันทีและก็มองว่าไม่ใช่เรื่องที่ผิด เราเข้าใจประเพณีไทยว่าเจ้าบ่าวต้องไปขอเจ้าสาวแต่งงาน แต่สิ่งที่สำคัญที่สุดคือความรัก เพราะเรารักกันก็ไม่จำเป็นต้องมีเหตุผลอะไรมาก อีกทั้งยุคสมัยเปลี่ยนไปแล้ว และครอบครัวทั้งสองฝ่ายก็ไม่ขัดข้อง ทุกอย่างลงตัว ถือว่าเป็นวันมงคลที่สุดในชีวิตอีกเหตุการณ์หนึ่งแล้ว
