โขนมูลนิธิส่งเสริมศิลปาชีพฯ ตอน”สะกดทัพ” กับเบื้องหลัง ฉาก-ประติมากรรม สุดอัศจรรย์

การสร้างฉากและประติมากรรมประกอบการแสดงโขนมูลนิธิส่งเสริมศิลปาชีพฯ  ตอน”สะกดทัพ” ปีนี้ ได้พัฒนาให้อลังการมากขึ้น   นอกจากมีส่วนสำคัญยิ่งกับการแสดงโขนและช่วยให้คนดูมีความรู้สึกและจินตนาการไปกับเรื่องราว  ยังมีส่วนสำคัญในการสืบสานงานศิลปกรรมช่างไทยทุกแขนงด้วย
.
ก่อนการแสดงโขนมูลนิธิส่งเสริมศิลปาชีพฯ จะโลดแล่นบนเวทีศูนย์วัฒนธรรมแห่งประเทศไทยปลายเดือนตุลาคมนี้ มูลนิธิส่งเสริมศิลปาชีพ ในสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ ชวนชมห้องปฏิบัติงานสร้างฉากโขนสะกดทัพ  ณ อาคารเรียน-รู้-เรื่อง-โขน ศูนย์ศิลปาชีพเกาะเกิด จ.พระนครศรีอยุธยาโดยมีอาจารย์สุดสาคร ชายเสม ผู้ออกแบบและควบคุมการสร้างประติมากรรม และเครื่องประกอบฉาก พาชมเบื้องหลังการจัดสร้างประติมากรรมยักษ์หนุมานแปลงกายสุดยิ่งใหญ่ ที่เหล่าช่างฝีมือมูลนิธิส่งเสริมศิลปาชีพฯ กว่า 50 ชีวิต  จัดทำด้วยความมุ่งมั่น  รวมถึงงานจิตรกรรมฉากที่ทีมเพาะช่างเกือบ 20 คน บรรจงรังสรรค์ ภายใต้การนำทีมของอาจารย์วิชัย รักชาติ ผู้ดูแลการเขียนฉาก
.
อาจารย์สุดสาคร ชายเสม   กล่าวว่า การแสดงโขนมูลนิธิส่งเสริมศิลปาชีพฯ ตอน”สะกดทัพ” มีความคืบหน้างานฉากและประติมากรรมประกอบการแสดงโขน 95%  มีฉากไฮไลท์ที่แตกต่างจากเดิม เนื่องจากเป็นบทพระราชนิพนธ์ในรัชกาลที่ 1 ได้แก่ ฉากหนุมานแผลงฤทธิ์ แปลงร่างใหญ่ยักษ์ 4 พักตร์ 8 กร สูงเทียมฟ้า ประติมากรรมหนุมานแปลงกายอ้างอิงมาจากภาพจิตรกรรมวัดพระแก้วและภาพหนุมานแปลงกายจากตู้พระธรรมโบราณสมัยอยุธยา  พร้อมมีเทคนิคพิเศษในการออกแบบกลไกให้เคลื่อนไหวได้เพื่อให้เป็นไปตามบทพระราชนิพนธ์  ที่หนุมานใช้มือจับแมลงภู่ในหุบเขาไร้รักแล้วขยี้จนตาย ไมยราพที่ฝากดวงใจไว้ในแมลงภู่ก็ขาดใจตายในที่สุดจากนั้นหนุมานช่วยพระรามที่ถูกขังไว้ในดงตาล เข้าสู่ฉากสุดท้ายเหล่าเทพมาชุมนุมยินดี
.
“เหตุที่เลือกฉากจบ ตอน”สะกดทัพ” ตามบทพระราชนิพนธ์ร.1 เพราะมีความพิเศษตอนที่หนุมานใช้มือขยี้แมลงภู่ ห้ามกระพริบตา  นอกจากนี้ ยังได้โชว์หนุมานขนาดใหญ่สูงถึง 7.50 เมตร  ถือเป็นประติมากรรมหนุมานที่ใหญ่ที่สุดเท่าที่เคยสร้างมา ยิ่งกว่านั้นเด็กๆ ชอบฉากหนุมานมาก” อาจารย์สุดสาคร ย้ำไฮไลท์
.
นอกจากนี้ อาจารย์สุดสาครเผยมีฉากที่เคยสร้างความประทับใจอย่าง ฉากหนุมานอมพลับพลา ขนาดใหญ่ สูง 8.50 เมตร ซึ่งนำโครงสร้างเดิมนำกลับซ่อมบำรุงปรับปรุงใหม่ให้อลังการและมีความคงทนถาวรมากขึ้น เพื่อนำกลับมาใช้อีกครั้ง ฉากกึ่งถาวรนี้จะเป็นประโยชน์ต่อการเรียนรู้งานศิลปกรรมฉากให้กับคนรุ่นหลัง ซึ่งตามพระราชเสาวนีย์ของสมเด็จพระพันปีหลวงสัมฤทธิ์แล้วในการฟื้นฟูโขน ฟื้นฟูศิลปะราชสำนัก ตระกูลช่างหลวง ชาติไทยเรารักษาเก่ง เป็นสิ่งที่เราประสบความสำเร็จ สมเด็จพระพันปีหลวงพระวิสัยทัศน์กว้างไกล
.
“ การสร้างสรรค์งานฉากและประติมากรรมประกอบการแสดงโขนเป็นความตั้งใจถวายพระเกียรติพระองค์ท่าน  งานฉากทั้งรูปแบบและความงดงามเป็นตัวเล่าเรื่องและขยายจินตนาการของผู้ชมที่เคยฝันไว้ในบทพระราชนิพนธ์ออกมาเป็นจริง  ช่วยขยายความท่าร่ายรำตัวละครโขนอยู่ในเหตุการณ์อะไร  สร้างรสนิยมให้ผู้ชมในการชมศิลปะการแสดงในราชสำนักชั้นสูง เพิ่มอรรถรส และความตื่นเต้นให้กับคนดู  เช่น ฉากเขาชนกัน ซึ่งหนุมานต้องฝ่าด่านภูเขาไฟที่ร้อนระอุ นอกจากงานฉาก ยังมีเทคนิคแสง สี เสียง ทำงานร่วมกัน โขนมูลนิธิส่งเสริมศิลปาชีพฯ ถือว่าสมบูรณ์ที่สุดแล้ว อยากให้คนไทยได้มาชมพระอัจฉริยะภาพของสมเด็จพระพันปีหลวง รวมถึงมาให้กำลังให้คนทำงานทั้งเบื้องหน้าและเบื้องหลัง  “ อาจารย์สุดสาคร กล่าว
.
การสร้างฉากที่จะดึงดูดสายตาผู้ชมโขน ตอน”สะกดทัพ” อาจารย์สุดสาคร เล่าว่า  ฉากออกแบบและเขียนใหม่เกือบทั้งหมดระดมช่างฝีมือดีมาช่วยกันสร้างสรรค์ฉากให้สวยสมบูรณ์แบบ โดยมีฉากใหญ่ 4 ฉาก เช่น ฉากเขาชนกัน ฉากป่าตาล ฉากป่าทึบ ฉากม่านพระ และฉากขา ซึ่งเป็นฉากย่อย
.
ความพิเศษเป็นฉากม่านพระจัดทำขึ้นใหม่แทนฉากเดิมที่ทอด้วยพรมของอาจารย์จักรพันธุ์ โปษยกฤต  ซึ่งชำรุดเสียหายไปหมดแล้ว โดยฉากม่านพระใช้ผ้าทอไร้รอยต่อจากประเทศจีน สูง 12 เมตร ยาว 20 เมตร ออกแบบภายใต้แนวคิดการจัดงานพิธีที่ต้องอัญเชิญพระพุทธเจ้า และทวยเทพทุกพระองค์  อาทิ พระอิศวร พระนารายณ์ พระพรหม พระภรตมุนี พระพิฆเนศวร พระวิษณุกรรม พระประโคนธรรพ พระอาทิตย์ พระจันทร์ เป็นต้น  นับเป็นฉากที่ต้องใช้ความปราณีตในการจัดทำ มีความยาก วาดด้วยลายรดน้ำสีทองบนพื้นสีดำ ใช้เวลาทำเพียง 1 สัปดาห์ นับเป็นอีกความอัศจรรย์ของงาน และเป็นความสิริมงคลกับผู้ชม
.
“ ฉากออกแบบให้มีความประสานกับนาฏศิลป์โขนละครที่จะแสดง รวมถึงได้แรงบันดาลใจจากจิตรกรรมฝาผนังชั้นครู เพื่อให้คนไทยเห็นคุณค่าของมรดกวัฒนธรรมที่ครูบาอาจารย์สั่งสมงานศิลปกรรมให้กับลูกศิษย์ได้ใช้สร้างงานจนทุกวันนี้ ซึ่งงานเขียนฉากทีมศิษย์เก่าและศิษย์ปัจจุบันวิทยาลัยเพาะช่าง มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลรัตนโกสินทร์ รับผิดชอบทุกปี  ตนมีแนวคิดจัดทำหนังสือกว่าจะเป็นการแสดงโขนมูลนิธิส่งเสริมศิลปาชีพฯ เพื่อเป็นประโยชน์ต่อการเรียนรู้ในอนาคต “ อาจารย์สุดสาคร กล่าว
.
ความวิจิตรบนเวทีนอกจากฉากและประติมากรรม ยังมีความวิจิตรเครื่องโขนที่เตรียมสะกดทุกสายตา ทั้งพัสตราภรณ์ เครื่องแต่งกายโขน และถนิมพิมพาภรณ์ เครื่องประดับตกแต่ง ซึ่งจัดทำโดยช่างฝีมือรุ่นใหม่ของมูลนิธิส่งเสริมศิลปาชีพฯ ที่มีทักษะฝีมือและความเชี่ยวชาญมากว่า 10 ปี ครั้งนี้ มีการสร้างเครื่องแต่งกายของไมยราพและตัวโขนอื่นๆเพิ่มอีกกว่า 100 ชุด เพื่อให้พัสตราภรณ์งดงามสมการรอคอยโขนมากว่า 3 ปี  

สำหรับการแสดงโขนมูลนิธิส่งเสริมศิลปาชีพฯ ตอน”สะกดทัพ” กำหนดจัดแสดงวันที่ 30 ตุลาคม ถึง 5 ธันวาคม 2565 ณ หอประชุมใหญ่ ศูนย์วัฒนธรรมแห่งประเทศไทย ในการนี้ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี จะเสด็จฯ มาทอดพระเนตรการแสดงโขนมูลนิธิส่งเสริมศิลปาชีพฯ ในวันที่ 28 ต.ค.นี้


ที่มา https://www.thaipost.net/news-update/245213/