12 ขั้นตอนแนวทางการเตรียมตัวเป็นนักการเมืองที่ดีสำหรับเด็กและเยาวชน การเตรียมตัวเป็นสิ่งสำคัญในการประกอบอาชีพนี้
สวัสดีครับ เนื่องจากเป็นช่วงเทศกาลส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ลุงโญเลยขอถือเอาบทความนี้เป็นบทความส่งท้ายในปีพ.ศ.2564 โดยลุงโญหวังว่า หลาน ๆ ทุกคนที่ได้อ่านจะเป็นส่วนสำคัญในการสร้างสรรค์ความสุข ความเจริญ และความมั่นคงให้กับบ้านเมืองของเราสืบไป เลยขอบอกแนะเรื่อง “การเตรียมตัวเป็นนักการเมืองที่ดี” ลุงโญเชื่อว่า คงมีหลาน ๆ สักคนหนึ่งหรือจำนวนหนึ่งได้เข้าสู่เส้นทางเพื่อเป็นนักการเมืองที่ดีในอนาคต และหวังเป็นอย่างยิ่งว่าหลาน ๆ จะเป็นนักการเมืองที่ดี จนเป็นรัฐบุรุษหรือรัฐสตรีของชาติ
เรื่องนี้หลาน ๆ และผู้ปกครองอาจมองว่าเป็นเรื่องไกลตัว แต่เมื่อถึงเวลาและโอกาสที่เหมาะสมแล้ว การเมืองเป็นเรื่องอะไรอย่างหนึ่งที่เข้ามาในชีวิตอย่างรวดเร็วมากชนิดที่บุคคลผู้นั้นตั้งตัวแทบไม่ทันเลยทีเดียว ก่อนที่จะเข้าสู่เส้นทางเพื่อเป็นนักการเมืองที่ดีนั้น ลุงโญอยากให้หลาน ๆ ที่สนใจหรือมุ่งมั่นตั้งใจที่จะทำงานการเมืองในอนาคตได้ถามตัวเองก่อนว่า มีคุณสมบัติเหล่านี้หรือไม่
- รักความถูกต้อง ยึดมั่นยุติธรรม และมีความซื่อสัตย์
- ยึดประโยชน์ส่วนรวมมากกว่าประโยชน์ส่วนตน
- รักชาติ
คุณสมบัติสามข้อนี้เป็นคุณสมบัติพื้นฐานของนักการเมืองที่ดี ถือเป็นจริยธรรมทางการเมือง (Political Ethics) หากไม่มีคุณสมบัติครบทั้งสามข้อนี้แล้ว ควรวางแผนชีวิตไปในเส้นทางอื่นจะดีกว่า ด้วยไม่มีคุณสมบัติทั้งสามข้อนี้แล้วนักการเมืองผู้นั้นมีโอกาสสูงที่จะทำผิด คิดชั่ว กลายเป็นทุรบุรุษหรือทุรสตรีแทนที่จะได้เป็นรัฐบุรุษหรือรัฐสตรีของชาติ และที่สุดต้องจบอนาคตในคุกในตาราง และจะถูกประณามหยามเหยียดไปจนชั่วลูกชั่วหลาน
สำหรับนักการเมืองที่อายุน้อยและเป็นที่น่าสนใจที่สุดในปัจจุบันได้แก่ Sanna Marin (เกิดเมื่อวันที่ 16 พฤศจิกายน พ.ศ. 2528) เป็นนักการเมืองชาวฟินแลนด์ ซึ่งดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีฟินแลนด์ตั้งแต่วันที่ 10 ธันวาคม พ.ศ. 2562 เป็นสมาชิกพรรคสังคมประชาธิปไตย (SDP) เป็นสมาชิกของรัฐสภาฟินแลนด์ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2558 (อายุ 30 ปี) และดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคมและการสื่อสาร ตั้งแต่วันที่ 6 มิถุนายน ถึง 10 ธันวาคม พ.ศ. 2562
หลังจากการลาออกของนายกรัฐมนตรี Antti Rinne อันเนื่องมาจากการประท้วงของพนักงานไปรษณีย์ Marin จึงได้รับเลือกให้เป็นนายกรัฐมนตรีในวันที่ 8 ธันวาคม พ.ศ. 2562 และเข้ารับตำแหน่งในวัย 34 ปี เธอเป็นบุคคลที่อายุน้อยที่สุดที่ดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีในประวัติศาสตร์ของฟินแลนด์ และปัจจุบันเป็นผู้นำรัฐบาลที่อายุน้อยที่สุดเป็นอันดับสองของโลก รองจาก Giacomo Simoncini ซึ่งดำรงตำแหน่ง the Captains Regent ซึ่งเป็นประมุขแห่งรัฐและหัวหน้ารัฐบาลของสาธารณรัฐแห่งซานมารีโน (ตั้งแต่ ตุลาคม พ.ศ. 2564 โดยมีวาระการดำรงตำแหน่ง 6 เดือน)
วิธีการเป็นนักการเมืองที่ประสบความสำเร็จ การเมืองอาจเป็นอาชีพที่ท้าทายและคุ้มค่า ซึ่งหลาน ๆ อาจมีอำนาจในฐานะนักการเมืองที่ได้รับการเลือกตั้งเพื่อสร้างสรรค์ สังคม ชุมชน จังหวัด จนกระทั่งประเทศชาติ การเป็นนักการเมืองที่ดี มีประสิทธิภาพ หลาน ๆ จะต้องผสมผสานการทำงานหนักกับทางเลือกที่ชาญฉลาด จะต้องมุ่งเน้นที่การรณรงค์เพื่อตำแหน่งที่ประสบความสำเร็จ เพื่อที่จะได้อยู่ในตำแหน่งที่มีอิทธิพลและเป็นตัวแทนของผู้มีสิทธิเลือกตั้งในระดับท้องถิ่นหรือระดับชาติ
ขั้นตอนที่หนึ่ง เรียนปริญญาตรีสาขารัฐศาสตร์หรือนิติศาสตร์ แม้ว่าหลาน ๆ จะสามารถเข้าสู่การเมืองได้โดยไม่ต้องเรียนจบปริญญา แต่หลาน ๆ สามารถที่จะดึงดูดผู้มีสิทธิเลือกตั้งมากขึ้นถ้าหลาน ๆ มีปริญญาที่เกี่ยวข้อง โดยเฉพาะปัจจุบันการศึกษาในระดับสูง ปริญญาตรีด้านรัฐศาสตร์หรือนิติศาสตร์ จะช่วยให้เรา มีรากฐานที่แข็งแกร่งในด้านพื้นฐานทางการเมือง
ตลอดจนประวัติศาสตร์ของการเมืองในประเทศและระหว่างประเทศ วิชาปริญญารัฐศาสตร์หรือนิติศาสตร์ จะช่วยให้เราเข้าใจวิธีประมวลผลและวิเคราะห์ข้อมูลทางการเมืองและเสริมสร้างทักษะการสื่อสาร โดยหลาน ๆ จะได้เรียนเรื่องของการแก้ปัญหาความขัดแย้ง และการพูดในที่สาธารณะ และในพื้นฐานทางการศึกษาถูกกำหนดเป็นคุณสมบัติในการดำรงตำแหน่งทางการเมืองในหลายตำแหน่งด้วย
ขั้นตอนที่สอง เข้าเรียนการฝึกพูดในที่สาธารณะผ่านชมรมหรือสโมสรการพูดในที่สาธารณะ การเรียนฝึกพูดในที่สาธารณะสามารถช่วยเตรียมหลาน ๆ ให้พร้อมสำหรับองค์ประกอบสำคัญของนักการเมืองที่ประสบความสำเร็จ นั่นคือ ความสามารถในการพูดอย่างโน้มน้าวใจและมีประสิทธิภาพต่อหน้าฝูงชน
นี่เป็นทางเลือกที่ดี หากกำลังมองหาวิธีที่จะพัฒนาทักษะทางการเมืองของตัวเองในเวลาว่าง การเรียนฝึกพูดในที่สาธารณะแม้สักสองสามหลักสูตรจะช่วยให้หลาน ๆ มีความมั่นใจในตนเองมากขึ้น ซึ่งเป็นคุณ ลักษณะสำคัญของนักการเมืองที่ดี
ขั้นตอนที่สาม เข้ามีส่วนร่วมในการกล่าวสุนทรพจน์และอภิปราย ตลอดจนงานกิจกรรมต่าง ๆ หากโรงเรียนจนถึงมหาวิทยาลัยของหลาน ๆ มีชั้นเรียนฝึกพูดและโต้วาที ควรสมัครและผลักดันตนเองให้เข้าร่วมแข่งขันกับเพื่อน ๆ ในการอภิปราย ทักษะการโต้วาทีที่ดีจะมีประโยชน์เมื่อต้องโต้วาที (Debate) กับผู้สมัครคนอื่น ๆ ในประเด็นต่าง ๆ ในระหว่างการหาเสียง รวมทั้งการร่วมทำกิจกรรมของชมรมและสโมสรของโรงเรียนจนถึงมหาวิทยาลัยที่เรียนด้วย จะเป็นประโยชน์อย่างมาก เพราะเป็นการฝึกและได้ประสบการณ์ในการทำงานร่วมกับผู้อื่น
ขั้นตอนที่สี่ หมั่นติดตามข่าวสารล่าสุดเกี่ยวกับการเมืองทั้งระดับท้องถิ่น ในชุมชนของหลาน ๆ และระดับประเทศ นักการเมืองที่ดีจะมีความรู้ ความเข้าใจที่ดี ในเรื่องกิจกรรมต่าง ๆ ที่เกิดในท้องถิ่น โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากเราลงสมัครรับเลือกตั้งในท้องที่ การติดตามเหตุการณ์ทางการเมืองล่าสุดในชุมชนของเรา ตั้งแต่ประเด็นที่เล็กที่สุดไปจนถึงประเด็นที่ใหญ่ที่สุด นอกจากนี้ควรตระหนักถึงสิ่งที่เกิดขึ้นในระดับประเทศ เพื่อที่จะได้ทราบข้อมูลที่ดีและเกิดนิสัยในการจดจำเหตุการณ์ข่าวล่าสุด วิธีหนึ่งในการทำเช่นนี้คือการใช้โซเชียลมีเดียเพื่อให้เป็นประโยชน์แก่ตัวเอง
ควรติดตามนักการเมืองและบุคคลที่เกี่ยวข้องกับการเมืองบน Twitter และ Facebook จากนั้นเราก็จะสามารถอ่านเรื่องราวสิ่งต่าง ๆ ที่พวกเขากำลังพูดถึง และรับข้อมูลผ่าน Feed ข่าวของพวกเขา และควรสร้างนิสัยที่จะตรวจสอบเว็บไซต์ข่าวการเมืองและบล็อกทุกวัน พยายามหาแหล่งข่าวหลาย ๆ แหล่งที่นำเสนอความคิดเห็นที่แตกต่างกันออกไปในหัวข้อนั้น ๆ ตัวอย่างเช่น อาจตรวจสอบแหล่งข่าวอนุรักษ์นิยมเพื่อดูข้อมูลเกี่ยวกับกรณีการทำแท้ง และแหล่งข่าวเสรีเพื่อดูข้อมูลเกี่ยวกับกรณีเดียวกัน วิธีนี้จะช่วยให้เข้าใจปัญหาทั้งสองด้านได้อย่างชัดเจน และลึกซึ้ง ทั้งยังช่วยให้หลาน ๆ สามารถระบุจุดยืนของตัวเองต่อปัญหาเหล่านี้ได้อย่างถูกต้องอีกด้วย
ขั้นตอนที่ห้า เข้ามีส่วนร่วมในความคิดริเริ่มและปัญหาของชุมชนท้องถิ่น ก่อนที่หลาน ๆ จะลงสมัครรับเลือกตั้งในระดับชาติได้ หลาน ๆ จะต้องเริ่มต้นจากสิ่งเล็ก ๆ และก้าวขึ้นจากการเมืองท้องถิ่นไปสู่การเมืองระดับชาติ เพื่อให้มีประสิทธิภาพในระดับท้องถิ่น จะต้องเชื่อมต่อกับชุมชนของหลาน ๆ และเข้ามีส่วนร่วม ซึ่งควรเริ่มตั้งแต่ระดับท้องถิ่น เช่น อบ. เทศบาล อบ. เข้าร่วมงานระดับท้องถิ่นของพรรคการเมืองที่เราต้องการสังกัด
และมีส่วนร่วมในการริเริ่มสำหรับพรรคการเมืองนั้นในชุมชนของหลาน ๆ เอง การสร้างสถานะที่แข็งแกร่งในชุมชนของเราเองจะเป็นการแนะนำสมาชิกในชุมชนว่า เราเป็นใคร และยืนหยัดเพื่ออะไร การอุทิศเวลาให้กับปัญหาและความคิดริเริ่มในท้องถิ่นจะแสดงให้ชุมชนของหลาน ๆ เห็นว่า เราเต็มใจที่จะอาสาใช้พลังงานเพื่อทำสิ่งที่ดี ไม่ใช่แค่เพื่อรับเงินเท่านั้น สิ่งนี้จะมีประโยชน์ในภายหลังเมื่อตัดสินใจลงสมัครรับการเลือกตั้ง
ขั้นตอนที่หก สร้างความสัมพันธ์ที่ดีกับผู้นำชุมชน หลาน ๆ ควรติดต่อผู้นำในชุมชนของหลาน ๆ และพูดคุย แนะนำตัว สร้างความคุ้นเคยกับพวกเขา วิธีนี้จะช่วยวางรากฐานสำหรับการหาเสียงของหลาน ๆ ในภายหลัง ซึ่งการมีความสัมพันธ์ทางการเมืองเหล่านี้ไว้ใช้เมื่อเราต้องการ การสร้างสายสัมพันธ์ที่แน่นเเฟ้นกับผู้นำเหล่านี้จะช่วยให้หลาน ๆ สามารถเรียนรู้ และดูว่าผู้นำเหล่านี้ประพฤติปฏิบัติตัวอย่างไรในชุมชน ควรจดบันทึกและให้ความสนใจกับวิธีที่ทำให้ผู้นำเหล่านี้ได้รับความเคารพและการยอมรับในชุมชน ซึ่งหลาน ๆ สามารถใช้ทักษะเหล่านี้ได้สำหรับการหาเสียงในอนาคต
