เซ็นทรัลพัฒนาจับมือกลุ่ม ปตท.ภายใต้แบรนด์ ‘ออน-ไอออน’ (on-ion) เดินหน้า The Future of eMobility Lifestyle อัดงบลงทุนกว่า 200 ล้านบาทขยายความร่วมมือให้บริการสถานีอัดประจุสำหรับยานยนต์ไฟฟ้า (on-ion EV Charging Station) ในศูนย์การค้าของเซ็นทรัลพัฒนากว่า 350 ช่องจอด นอกจากนี้ยังเสริมทัพด้วย บริษัท อีโวลท์ เทคโนโลยี จำกัด ร่วมขยายสถานีกว่า 50 ช่องจอด รวมกว่า 400 ช่องจอด ภายในสิ้นปี 2565 นี้
.
นางสาววัลยา จิราธิวัฒน์ กรรมการผู้จัดการใหญ่และประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เซ็นทรัลพัฒนา จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า “เพื่อตอบรับเทรนด์ EV ที่คนไทยหันมาให้ความสำคัญต่อการใช้รถไฟฟ้ามากขึ้น เราจึงได้ร่วมมือกับพันธมิตรกลุ่มธุรกิจพลังงานรายใหญ่ ร่วมขยายสถานีฯ ในศูนย์การค้าเซ็นทรัลกว่า 400 ช่องจอดภายในสิ้นปีนี้ ซึ่งถือว่ามากที่สุดและเป็นเบอร์ 1 ในกลุ่มศูนย์การค้าของไทย โดยเฟสแรกคาดว่าจะแล้วเสร็จภายในเดือนตุลาคม 2565 ตอบรับการเดินทางในทุกๆ วัน (short haul) หรือจะเดินทางแบบเมืองเชื่อมเมือง (long haul) สะท้อนความเป็นศูนย์กลางของทุกจังหวัด ท่องเที่ยวได้จากเหนือจดใต้ ผ่าน 37 สาขา กว่า 18 จังหวัดทั่วประเทศ
.
สำหรับความโดดเด่นของจุดชาร์จรถไฟฟ้าในเซ็นทรัล คือ...
.
1.) จุดชาร์จครอบคลุมทั่วประเทศ ทำให้เกิด Worry-Free Journey การเดินทางแบบไร้กังวล
.
2.) ความสะดวกสบาย ชาร์จไฟกับรถยนต์ได้ทุกแบรนด์ ทุกค่าย
.
3.) สถานที่และระบบชาร์จมีมาตรฐานและความปลอดภัยสูง
.
4.) ได้รับสิทธิประโยชน์มากมายจากกลุ่มเซ็นทรัล ส่งเสริม Eco-lifestyle Marketing ทั้งโปรโมชัน และส่วนลด เช่น ชาร์จฟรี 1 ชั่วโมงแรก เมื่อช้อปในศูนย์การค้าครบ 800 บาท สิทธิพิเศษมีจำนวนจำกัด เฉพาะ 1 เดือนแรก เพื่อสนับสนุนการใช้รถ EV ให้กลายเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตประจำวันของคนไทย และร่วมกันดูแลโลกและสิ่งแวดล้อม พร้อมต่อยอดตามดีมานด์ของลูกค้าในอนาคต และขยายสู่ธุรกิจอื่นๆ เช่น ที่อยู่อาศัย, โรงแรม และอาคารสำนักงานโดยคาดว่าจะมีส่วนช่วยในการลดการปลดปล่อยก๊าซ CO2 ให้ประเทศไทยได้มากกว่า 5,250 ตันต่อปี
.
ขณะที่ นายนพดล ปิ่นสุภา ประธานเจ้าหน้าที่ปฏิบัติการกลุ่มธุรกิจใหม่และโครงสร้างพื้นฐาน บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า กลุ่ม ปตท. โดย บริษัท อรุณ พลัส จำกัด (ARUN PLUS) ได้ขยายสถานีอัดประจุสำหรับยานยนต์ไฟฟ้า ภายใต้แบรนด์ ออน-ไอออน (on-ion EV Charging Station) บนทำเลศักยภาพร่วมกับเซ็นทรัลพัฒนา รองรับการเติบโตของตลาด EV ให้พลังงานทางเลือกอยู่ใกล้ตัวกว่าที่คิด ในรูปแบบของ ‘Green Charging Network’ ผ่าน on-ion Mobile Application
.
“การจับมือกับเซ็นทรัลพัฒนาในครั้งนี้นับเป็นก้าวสำคัญในการขับเคลื่อนการลงทุนด้านนวัตกรรมพลังงานอนาคต เป็นความร่วมมือระหว่างบริษัทชั้นนำของประเทศไทยในด้านพลังงานและด้านพัฒนาศูนย์การค้า สร้างความมั่นคงด้านพลังงานแห่งอนาคต และผู้ใช้ EV เกิดความมั่นใจว่าสามารถเดินทางทั่วไทยได้อย่างไร้กังวลเรื่องแบตเตอรี่หมดระหว่างทาง ซึ่งผู้ใช้ EV ที่ใช้บริการชาร์จไฟที่สถานีของออน-ไอออน จะมั่นใจได้ว่าพลังงานไฟฟ้าที่ได้รับเป็นพลังงานสะอาดที่มาจากแหล่งพลังงานหมุนเวียน 100% ด้วยการออกใบรับรองการใช้พลังงานหมุนเวียน หรือ Renewable Energy Certificates (RECs) และเป็นพลังงานหมุนเวียนที่ผลิตในประเทศไทยทั้งหมด นอกจากนี้ ผู้ใช้บริการซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของการสนับสนุนการใช้พลังงานสะอาดจะได้รับสิทธิพิเศษต่างๆ อีกมากมาย” นายนพดล กล่าว
.
ด้าน นายพูนพัฒน์ โลหารชุน ประธานกรรมการบริหาร บริษัท อีโวลท์ เทคโนโลยี จำกัด กล่าวว่า การก้าวสู่สังคมคาร์บอนต่ำ (Low Carbon Society) ถือเป็นหนึ่งในพันธกิจของเราที่ใช้พลังงานสะอาดและผลักดันแนวคิดขับเคลื่อนด้วยระบบไฟฟ้าในอนาคต (E-mobility to drive the future) นอกจากนี้ยังให้ความสำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจและประเทศให้ใส่ใจสิ่งแวดล้อมควบคู่กันอีกด้วย สถานีชาร์จยานยนต์ไฟฟ้า (EV Charging Station) ถือเป็นอีกหนึ่งปัจจัยสำคัญของการวางรากฐานให้ธุรกิจยานยนต์ไฟฟ้าแข็งแรงขึ้น ซึ่งการร่วมมือกับเซ็นทรัลพัฒนาในครั้งนี้นับเป็นการร่วมมือครั้งสำคัญเพื่อเพิ่มศักยภาพในการขยายเครือข่ายสถานีชาร์จให้ผู้ใช้ยานยนต์ไฟฟ้าให้แข็งแกร่งและครอบคลุมมากขึ้น เข้าถึงสถานีชาร์จได้ง่ายขึ้น
.
“อีโวลท์ ในฐานะผู้ให้บริการสถานีชาร์จยานยนต์ไฟฟ้าแบบครบวงจร มุ่งขยายเครือข่ายสถานีชาร์จเพื่อตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ At Home, At Work, At Play, At Travel ซึ่งเซ็นทรัลพัฒนาเป็นศูนย์การค้าชั้นนำที่มีโลเกชันใจกลางเมืองและจังหวัดหลักในแต่ละภูมิภาคที่ดี (Prime Location) และอีโวลท์ที่จะเข้ามาช่วยเติมเต็มและเสริมความแข็งแกร่งในส่วนของการขยายเครือข่ายสถานีชาร์จในศูนย์การค้าเพื่อรองรับไลฟ์สไตล์ของผู้ใช้งาน At Play โดยพร้อมเปิดให้ใช้บริการเต็มรูปแบบภายในปี 2565 ผ่าน EVolt Application ทั้งระบบ iOS และ Android พร้อมทีมงานที่ช่วยให้คำปรึกษาอย่างรวดเร็วตลอด 24 ชม.ผ่านทุกช่องทาง ทั้ง Call Center 0-2114-7343 หรือ Line: @evolt_th” นายพูนพัฒน์ กล่าว
ที่มา https://thestatestimes.com/post/2022081722